น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกสบายใจมากขึ้นหลังจากที่ได้รับฟังรายงานสถานการณ์การป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ และนนทบุรี โดยในขณะนี้ในส่วนของกรุงเทพฯ ได้มีการเตรียมความพร้อม ซึ่งมีเขื่อนที่สามารถรองรับปริมาณน้ำ โดยห่างจากพื้นที่ กทม.ราว 70 กม. และในส่วนของท่าอากาศยานสุวรรภูมิมีการพูดคุยกันแล้วว่าสามารถป้องกันน้ำท่วมได้
ส่วนพื้นที่ จ.นนทบุรี ได้มีการเตรียมแนวดินเอาไว้ และสามารถรองรับปริมาณน้ำที่จะเพิ่มสูงขึ้นได้ ทั้งนี้ยอมรับว่าปริมาณน้ำคงจะเป็นเรื่องยากที่จะมีการต้านไม่ให้เข้ามาเลย เพราะเป็นไปตามโครงสร้างภูมิประเทศแต่ะละพื้นที่ แต่รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมรองรับในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในขณะนี้ก่อน และหลังจากนี้คงจะต้องมีการหารือมาตรการอีกครั้ง
นายกฯ กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งในการปล่อยน้ำและรับน้ำในแต่ละพื้นที่ซึ่งอาจกระทบต่อพื้นที่การเกษตรของประชาชนว่า เรื่องนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดในแต่ละพื้นที่ต้องเป็นผู้ตัดสินใจ หากพื้นที่ไหนเป็นพื้นที่เพาะปลูก และได้รับความเสียหายอาจจำเป็นต้องดูแลเรื่องการชดเชยความเสียหายให้
พร้อมกันนี้ นายกฯ ได้ขอบคุณประชาชนทั้งภาครัฐและเอกชนสำหรับยอดเงินบริจาคเมื่อคืนนี้
ด้านนางสาวฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาน้ำท่วมที่อาคารรัฐสภา ก่อนเดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชาอย่างเป็นทางการในช่วงบ่ายวันนี้ โดยเป็นการประชุมเพื่อให้ทำงานแบบบูรณาการ เตรียมการป้องกันน้ำที่จะเข้ามาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเป็นการทำงานในเชิงรุก
ทั้งนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับจากการไปเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในวันพรุ่งนี้(16 ก.ย.)แล้วก็มีกำหนดการที่จะลงพื้นที่ประสบอุทกภัยอีกครั้ง
ด้าน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหม ช่วยจัดการเรื่องการผันน้ำออกจากลุ่มน้ำเจ้าพระยาลงทะเลให้เร็วที่สุด โดยกองทัพบกและกองทัพเรือจะร่วมดำเนินการด้วยการใช้เรือดำน้ำ
พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวถึงการแบ่งพื้นที่รับผิดชอบแก้ไขปัญหาน้ำท่วมตามที่นายกฯ มอบหมายให้ดูแลพื้นที่ จ.น่าน ว่า ตนเองจะลงพื้นที่ในวันที่ 17 ก.ย.นี้ เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน