นายพระนาย สุวรรณรัฐ รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านการเผชิญเหตุ (Response) เปิดเผยว่า ที่ประชุมฯได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานเผชิญเหตุตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยที่ประชุมได้มติมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการ โดยให้จังหวัดปรับการทำงานของศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ ของจังหวัดในลักษณะบูรณาการแบบ One Stop Service และกำหนดผู้รับผิดชอบตามนโยบาย 2P 2 R ที่ชัดเจน รวมถึงเสริมประสิทธิภาพการบริหารจัดการของส่วนกลางในการสนับสนุนและช่วยเหลือจังหวัด โดยมอบหมายให้กรมชลประทาน เป็นหัวหน้าคณะทำงานร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์ด้านอากาศและน้ำ เพื่อให้สามารถกำหนดพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างชัดเจน ส่งผลให้การแจ้งเตือนมีความแม่นยำ ซึ่งจะช่วยป้องกันการประเมินสถานการณ์ผิดพลาด
พร้อมทั้งให้กรมการปกครองจัดวางระบบข้อมูลเชิงพื้นที่ที่มีความสมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน จะได้วางแผนการแก้ไขปัญหา ตลอดจนมอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองบัญชาการกองทัพไทย จัดทำฐานข้อมูลและบูรณาการด้านทรัพยากรทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยร่วมกัน พร้อมวางแผนการจัดระบบการสั่งใช้และการระดมทรัพยากร เพื่อให้สามารถวางแผนสนับสนุนทรัพยากรช่วยเหลือจังหวัดที่ประสบภัยได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด
นายพระนาย กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมได้กำหนดแนวทางการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาในเชิงพื้นที่ โดยเสนอให้นายกรัฐมนตรีจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าใน 2 ระดับ ดังนี้ ศูนย์ประสานงานด้านการจัดการสาธารณภัยระดับหน่วยงาน และศูนย์บัญชาการพื้นที่ ซึ่งจะทำให้การสั่งการแก้ไขปัญหาสาธารณภัยมีความรวดเร็ว คล่องตัว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญกระทรวงมหาดไทยจะได้บูรณาการภารกิจของหน่วยงานในสังกัดสนับสนุนการเผชิญเหตุและฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับการช่วยเหลืออย่างทั่วถึงและพื้นที่ประสบภัยสามารถฟื้นคืนสู่สภาวะปกติได้อย่างรวดเร็ว