ศูนย์สำรวจความคิดเห็นของประชาชน “นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “คนกรุงเทพฯ กับความพึงพอใจผลงานผู้ว่าฯ กทม. ในช่วง 3 ปี ผลสำรวจชี้ บุคลิกภาพได้คะแนนนำสูงสุด คือ 7.4 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 ส่วนความซื่อสัตย์ ความขยัน วิสัยทัศน์ ความสามารถและกล้าตัดสินใจ ตลอดจนการประสานงานกับรัฐและหน่วยงานอื่นๆคะแนนเฉลี่ยมากกว่า 6 ในด้านผลงานของผู้ว่าฯ ในช่วง 3 ปี พบมีคะแนนเฉลี่ย 6.86 ผลงานที่คนกรุงพอใจมากที่สุด คือ การให้บริการการศึกษา สาธารณสุข และบริการอื่นๆ (ร้อยละ 69.44) รองลงมา คือ การพัฒนาสาธารณูปโภค ระเบียบชุมชน ผังเมือง สิ่งแวดล้อม (ร้อยละ 58.29)
ส่วนด้านที่ผู้ว่ากทม. สอบตก เพราะมีคนกรุงพอใจน้อย คือ การแก้ไขปัญหาการจราจร และระบบขนส่งมวลชน (ร้อยละ 31.74) และการแก้ไขปัญหาคอรัปชั่นในกทม. (ร้อยละ 18.23)
ทั้งนี้ ประชาชนเห็นว่า กรุงเทพมหานคร (กทม.)เป็นมหานครที่มีศักยภาพที่จะพัฒนาไปสู่มหานครศูนย์กลาง (Hub City) ได้มหานครหนึ่งของโลก ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯจึงสมควรมีบทบาทสำคัญทั้งในแง่การดูแลทุกข์สุขของชาวกทม. และบทบาทในการพัฒนาอนาคตกทม.ไปสู่มหานครศูนย์กลางของโลกในอนาคต
แต่สภาพที่เป็นปัจจุบัน กทม.กลับมีปัญหารุมเร้ามากมาย เช่น ปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรม แหล่งเสื่อมโทรม รถติด มลพิษ น้ำท่วม เป็นต้น ปัญหาเหล่านี้นอกจากจะนำความทุกข์ยากสู่ประชาชนแล้ว ยังทำลายโอกาสในการแข่งขันของกทม.อีกด้วย ฉะนั้นเพื่อการแก้ปัญหาให้สำเร็จจึงจำเป็นต้องอาศัยความสามารถของกทม.ที่สูงกว่าปัจจุบัน นั้นคือ กทม.ต้องมีอำนาจในการดำเนินภารกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับทุกข์สุขของประชาชนๆได้อย่างจริงจัง
ผู้ว่าราชการกทม.จำเป็นต้องเรียกร้องให้มีการถ่ายโอนกิจการต่างๆ ที่จำเป็นต่อการดูแลทุกข์สุขของประชาชน ดังกล่าวให้สังกัดกับกทม. ทั้งนี้เพื่อให้ กทม.มีพลังในการดูแลประชาชนมากขึ้น กิจการที่สมควรโอนมาสังกัดกับกทม.เป็นอย่างยิ่ง เช่น กิจการด้านสาธารณูปการ (น้ำ,ไฟฟ้า,ถนน ฯลฯ) กิจการด้านจราจร ขนส่งมวลชนในกทม.ทุกประเภท พร้อมทั้งยังได้รับการกระจายอำนาจด้านภาษีและการเงินที่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาทั้งในระยะใกล้และการพัฒนากทม.ระยะยาวอีกด้วย