ศอส.เตือนเหนือ-อีสานตอนบนระวังผลกระทบพายุนาลแก, ยอดเสียชีวิต 212 ราย

ข่าวทั่วไป Monday October 3, 2011 13:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้อำนวยการศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์ อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) เปิดเผยว่า ในวันนี้จะมีฝนตกค่อนข้างหนักมากกระจายทุกภูมิภาคของประเทศ ภาคเหนือ (จ.ลำพูน) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (จ.นครราชสีมา และ จ.เลย ) ภาคตะวันออก (จ.ตราด) ภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน โดยเฉพาะจังหวัดระนองและพังงา ส่วนพายุโซนร้อนนาลแก คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 5 ตุลาคม 2554 และจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ทำให้บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักในช่วงวันที่ 6 - 8 ตุลาคม 2554 ศอส. จึงได้ประสานจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ภัย และแจ้งเตือนประชาชนให้รับทราบปริมาณน้ำและความเร็วของกระแสน้ำ เพื่อสามารถเตรียมพร้อมอพยพหนีภัยได้ทันท่วงที

สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำต่างๆ ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีปริมาณน้ำมากและระดับน้ำล้นตลิ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะลุ่มน้ำปิงที่อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน และคาดว่าจะมีน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำตอนล่างของจังหวัดเชียงใหม่และอำเภอป่าซาง อำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน ลุ่มน้ำมูล ยังมีน้ำล้นตลิ่งในหลายอำเภอของจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ และสุรินทร์ ลุ่มน้ำชี ยังมีน้ำล้นตลิ่งที่จังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม โดยจะมีมวลน้ำเคลื่อนตัวมาที่อำเภอเมืองของทั้ง 2 จังหวัด คาดว่าน้ำจะล้นตลิ่งภายใน 1- 2 วันนี้

ส่วนที่ยโสธร ร้อยเอ็ด และกาฬสินธิ์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ลุ่มน้ำปราจีนบุรี ที่อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ลุ่มน้ำท่าจีน ที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ขณะที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา สถานการณ์น้ำยังทรงตัว ปริมาณน้ำไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ 4,362 ลบ.ม./วินาที เขื่อนเจ้าพระยาปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,586 ลบ.ม./วินาที ปริมาณน้ำไหลผ่านอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3,236 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ 10 จังหวัดที่อยู่ริมแม่น้ำ ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ปทุมธานี และนนทบุรี ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำล้นตลิ่งที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

สถานการณ์น้ำในเขื่อนยังอยู่ในภาวะวิกฤต โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำ 93% เขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำ 99% เขื่อนแควน้อย มีปริมาณน้ำ 94% เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำ 136%

ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 25จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อุบลราชธานี ขอนแก่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี เชียงใหม่ ยโสธร และร้อยเอ็ด รวม 179 อำเภอ 1,240 ตำบล 10,703 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 746,999 ครัวเรือน 2,420,868 คน ผู้เสียชีวิต 212 ราย สูญหาย 2 ราย พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 7,528,805 ไร่ พื้นที่เพาะเลี้ยง สัตว์น้ำ บ่อปลา 107,732บ่อ สัตว์ได้รับผลกระทบ 8,511,689ตัว น้ำท่วมเส้นทางไม่สามารถสัญจรผ่านได้ รวม 123 สาย แยกเป็น ทางหลวง 37 สาย ใน 10 จังหวัด ทางหลวงชนบท 86 สายใน 18 จังหวัด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ