ศอส.เตือน 5 จังหวัดเฝ้าระวังดินถล่ม-น้ำป่าไหลหลาก,ยอดเสียชีวิต 244 ราย

ข่าวทั่วไป Thursday October 6, 2011 15:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รองผู้อำนวยการศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) เตือนประชาชนระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนัก โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน ใน 5 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต ต้องเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม โดยขอให้หมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ หากสถานการณ์วิกฤตจะได้อพยพหนีภัยได้อย่างทันท่วงที เนื่องจากในระยะ 1-2 วันนี้ จะมีฝนตกกระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่งทางด้านภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

จากการประสานสถานการณ์น้ำในเขื่อน พบว่า ขณะนี้เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี มีการระบายน้ำออกมาอย่างต่อเนื่อง จึงขอเตือนให้จังหวัดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ท้ายเขื่อนทั้งสองแห่ง เตรียมรับมือผลกระทบจากการระบายน้ำในระยะนี้ไว้ด้วย คาดว่า มวลน้ำของทั้งสองเขื่อนใหญ่ จะไหลมารวมกันในพื้นที่ภาคกลางตอนล่างช่วงวันที่ 13-16 ตุลาคม นี้ ซึ่งช่วงดังกล่าวเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง ส่งผลให้การผลักดันน้ำออกสู่ทะเลเป็นไปด้วยความยากลำบาก จึงขอให้ประชาชนเตรียมรับมือภาวะน้ำล้นที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ เนื่องจากปริมาณทางตอนเหนือของประเทศยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ศอส.จึงขอเตือนให้จังหวัดท้ายเขื่อนและจังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากน้ำเหนือที่ไหลบ่าลงมา ดำเนินการตรวจสอบความแข็งแรงของคันกั้นน้ำ และเสริมแนวคันกั้นน้ำให้สูงขึ้น พร้อมตือนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเตรียมรับมือและขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์วิกฤต ให้จัดเตรียมแผนและพื้นที่รองรับการอพยพของประชาชนไว้ด้วย

ปัจจุบัน ยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 28จังหวัด รวม 201 อำเภอ 1,486 ตำบล 11,208 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 826,377 ครัวเรือน 2,604,220 คน ผู้เสียชีวิต 244 ราย สูญหาย 3 ราย พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 7,528,805 ไร่

สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำต่างๆ ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีปริมาณน้ำมากและระดับน้ำล้นตลิ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณไหลผ่าน 3,622 ลบ.ม./วินาที ปริมาณน้ำไหลผ่านที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3,930 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำใน 10 จังหวัด ที่อยู่ริมแม่น้ำ ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ปทุมธานี และนนทบุรี ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำล้นตลิ่งที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ยังอยู่ในภาวะวิกฤต โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำ 98% เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำ 99% เขื่อนแควน้อยมีปริมาณน้ำ 98% เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำ 136%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ