รายงานข่าวแจ้งว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะชี้แจงสถานการณ์น้ำท่วม ตลอดจนแนวทางการแก้ปัญหา การเตือนภัยประชาชน รวมทั้งขอความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาผ่านทางวสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ(ทีวีพูล) ในเวลา 20.30 น.
โดยช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมร่วมกับ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.), พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม, นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตัวแทน กทม. และผู้นำเหล่าทัพ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมต่อจากการประชุมช่วงเช้า โดยใช้เวลาหารือนานกว่าสองชั่วโมง
นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังประชุมว่า ได้เชิญ รมว.กลาโหม และผู้นำเหล่าทัพมาหารือ เพื่อให้ทำงานสอดคล้องในแนวทางเดียวกันและรวมทุกสรรพกำลังของทุกเหล่าทัพมาแก้ปัญหาให้ประชาชน สิ่งที่ตนเองให้ความสำคัญเร่งด่วนคือการอพยพประชาชนและการดูแลเรื่องอาหารการกิน โดยให้ตำรวจดูแลบางจังหวัดและทหารดูแลสามจังหวัดใหญ่
"การป้องกันตนจะประเมินและเน้นจุดรอยต่อและบริเวณที่สามารถอยู่ในศักยภาพป้องกันได้ เพราะไม่สามารถระดมทุกสรรพกำลังไปป้องกันได้หมด" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
เนื่องจากน้ำเหนือมีปริมาณมากและแผ่กระจายในวงกว้าง ฉะนั้นต้องระดมสรรพกำลังช่วยเหลือแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือ พื้นที่ใดยังไม่มีผลกระทบหรือกำลังจะมีผลกระทบที่สามารถป้องกันได้ เราจะรวมทุกสรรพกำลังและแบ่งงานของแต่ละกองทัพให้รับจุดสำคัญที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ใหญ่ ส่วนที่สองคือหากบริเวณใดที่ไม่สามารถป้องกันได้จะเร่งอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัย เช่น จ.พระนครศรีอยุธยาที่ค่ายอพยพเต็ม ก็ลำเลียงไปใช้ค่ายทหารที่ จ.สระบุรีเพิ่มเติม ทุกส่วนเร่งประสารเข้าพื้นที่ทั้งหมด
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วน กทม.นั้นต้องช่วยกันมองและประเมินปัญหาร่วมกันที่จะป้องกันช่วงรอยต่อของจังหวัดต่างๆ กับกทม.ให้ต่อเชื่อมแบบสมบูรณ์เร็วที่สุด เบื้องต้นนี้ในส่วน กทม.นั้นต้องใช้กำลังทุกหน่วยงานและทุกกองทัพมาช่วยป้องกันรอยต่อที่มีอยู่ และต้องการกระสอบทรายจำนวนมากราว 7 อสนกระสอบ โอกาสนี้ขอประชาสัมพันธ์ไปยังภาครัฐและเอกชนที่มีทรายมาให้นั้น เราต้องการมาทำคันกั้นน้ำเร่งด่วน ซึ่งใน กทม.อาจจะมีพื้นที่เสี่ยงภัยที่น้ำจะแผ่กระจายไปถึงหากบางส่วนที่น้ำบางส่วนไหลมาแล้วกระทบและเกินการประมาณการ ซึ่งอาจมีผลกระทบในพื้นที่ กทม.ตอนเหนือและตะวันออก คือพื้นที่เสี่ยงภัยที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ
"ขอเรียนกับประชาชนว่า กรุณาอย่าตื่นตระหนก วันนี้ขอเรียนในข้อเท็จจริงคือต้องเตรียมตัวในพื้นที่เสี่ยงภัยนี้ ควรขนย้ายข้าวของที่มีค่าขึ้นชั้นบน ดูแลชีวิตและทรัพย์สินแบบเบี้องต้น โดยไม่ควรอยู่ในความประมาท" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้สามารถประเมินสถานการณ์น้ำได้ถึงวันที่ 13 ต.ค.เท่านั้น หลังจากนั้นจะประมาณการว่าพายุที่จะเข้ามานั้นมีความแรงเพียงใด แต่รายละเอียดเบื้องต้นนั้น ตนเองคิดว่าสิ่งที่ต้องป้องกันในวันนี้น่าจะปกป้องได้เบื้องต้นแต่รัฐบาลจะไม่อยู่ในความประมาท จะติดตามการทำงานใกล้ชิดเร่งด่วนและตรวจสอบดูแลคันกั้นน้ำในสถานที่สำคัญตลอดเวลา ทุกสรรพกำลังที่รัฐบาลมีอยู่รวมกันวันนี้เพื่อระดมช่วยเหลือประชาชนเต็มที่