กรมชลประทาน ระบุว่าพื้นที่ในจังหวัดปทุมธานีและจังหวัดนนทบุรีเป็นพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ขณะนี้ได้มีการสร้างคันกั้นน้ำพร้อมเสริมความแข็งแรงในแต่ละพื้นที่อย่างเต็มที่ หากปริมาณน้ำมีมากเกินกว่าที่คันกั้นน้ำจะสามารถต้านทานแรงน้ำได้ก็จะทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ด้านในคันกั้นน้ำได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นควรติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในวันที่ 13-18 ต.ค นี้ และสามารถติดตามสถานการณ์ได้ที่ โทร.02 5834102
ด้านนายวิม รุ่งวัฒนจินดา โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) กล่าวว่า ขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดและอย่าเชื่อข่าวลือ เพราะจากการตรวจสอบพบว่า ขณะนี้มีการโพสข้อความที่ไม่เป็นความจริงผ่านโซเชียลมีเดีย สร้างความตื่นตระหนกให้ประชาชนในพื้นที่ เช่น การบรอดแคสข้อความผ่านทางบีบี หรือการรีทวิตข้อความที่ไม่ผ่านการตรวจสอบข้อมูลอย่างถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ศปภ.กำลังเร่งระบายน้ำที่ไหลเข้ามายังจังหวัดปทุมธานี และภาคตะวันออกของกรุงเทพมหานครเช่นหนอกจอก ลาดกระบัง และมีนบุรี เพื่อให้ไหลออกไปยังทะเลสมุทรปราการแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ประสบภัยพิบัติแต่เป็น"พื้นที่เสี่ยงภัย" หาก ศปภ.ประเมินว่าพื้นที่ดัวกล่าวมีความเสี่ยงว่าน้ำจะท่วมสูง จะประสานให้กรุงเทพมหานครประกาศให้ประชาชนทราบภายใน 7 ชั่วโมง