นายจิตตเกษมณ์ นิโรจน์ธนรัฐ นายกเทศมนตรีนคร นครสวรรค์ ยอมรับว่า การกู้สถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลนครสวรรค์หลังจากที่พนังกั้นน้ำปิงพังเมื่อช่วงสายนั้นคงทำได้ยากเต็มที และอาจทำให้ชาวเมืองนครสวรรค์ต้องทำใจยอมรับสถานการณ์น้ำท่วมที่ไม่คาดคิดในครั้งนี้ แม้จะมีการป้องกันอย่างเต็มที่แล้วในช่วงที่ผ่านมา
"คงซ่อมไม่ได้แล้ว เพราะกระแสน้ำมันขึ้นเร็วมาก...คงต้องยอมรับสภาพ ตอนนี้น้ำเข้าท่วมในเขตเทศบาลทั้งหมดแล้ว พื้นที่ 27.8 ตารางกิโลเมตร" นายจิตตเกษมณ์ กล่าว
สำหรับสถานที่ปลอดภัยทั้ง 5 แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียนนครสวรรค์, วิทยาลัยอาชีวะนครสวรรค์, วัดคีรีวงศ์, สนามกีฬากลางจังหวัด และวิทยาลัยเทคโนโลยีภาคเหนือ ซึ่งสามารถรองรับประชาชนได้ราว 10,000 คน
นายกเทศมนตรีนคร นครสวรรค์ คาดว่าภายในคืนนี้ระดับน้ำอาจจะท่วมสูงถึง 2 เมตร จึงขอให้ประชาชนกล่าวว่าอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยทั้ง 5 แห่งที่ทางการจัดไว้ ซึ่งขณะนี้กำลังจากเจ้าหน้าที่ทหารกำลังเร่งขนย้ายประชาชนออกไปจากเขตเทศบาลเมืองแล้ว พร้อมมองว่า ยังถือเป็นความโชคดีที่พนังกั้นน้ำพังในตอนกลางวันจึงทำให้ทางการยังสามารถเข้าไปดูแลประชาชนได้ เพราะหากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลากลางคืน จะทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ลำบาก การอพยพประชนคงเป็นไปได้ยากและความสูญเสียอาจจะมีมากกว่านี้
"ระดับน้ำอาจสูงถึง 2 เมตรในคืนนี้ แจ้งให้ประชาชนอพยพแล้วตั้งแต่ช่วงสาย...โชคดีที่เป็นตอนกลางวัน ยังสามารถเข้าไปดูแลประชาชนได้" นายจิตตเกษมณ์ กล่าว
นายวิม รุ่งวัฒนจินดา โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมเข้าพื้นที่เทศบาลนครนครสวรรค์ระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่ช่วงสายเกิดเหตุพนังกั้นแม่น้ำปิงได้พังลงยาวกว่า 100 เมตร ประกอบกับมีเรือพุ่งชนแนวกำแพงกั้นน้ำพัง และแตกเป็นช่องอีก 5-6 เมตร แม้เจ้าหน้าที่จะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่แล้วแต่ยังไม่สามารถหยุดการไหลทะลักของน้ำที่เข้าท่วมสู่เทศบาลนครสวรรค์ได้ ส่งผลให้ล่าสุดระดับน้ำในย่านเศรษฐกิจบางช่วงสูงกว่า 1 เมตรแล้ว