นายวิม รุ่งวัฒนจินดา โฆษกศูนบ์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) เปิดเผยว่า ภายหลังการประชุม ครม.เสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อนำสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นไปหย่อนให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ในจุดที่ความช่วยเหลือยังไปไม่ถึง
จากนั้นจะเดินทางต่อไปที่ จ.ปทุมธานี ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อตรวจสอบพนังกั้นน้ำที่ อ.สามโคก ที่มีข่าวว่าพนังแตก และตรวจสอยการทำงานของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบทที่ซ่อมแซมพนังกั้นน้ำดังกล่าว รวมถึงจะไปดูการทำงานของทหารและอาสาสมัครในการสร้างพนังกั้นน้ำคลอง 8 เชื่อมกับคลอง 1
นายกรัฐมนตรี ยังจะไปดูการบรรจุถุงทรายที่จะสร้างพนังกั้นน้ำ กั้นแนวสำคัญ 3 จุดไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วม กทม. คือ บริเวณเมืองเอก จะมีนวป้องกันระยะทาง 10 ก.ม., ตลิ่งชัน บริเวณด้านหลังมหาวิทยาลัยมหิดล และ บริเวณรังสิต คลอง 5 ส่วนจุดที่ 4 จะไปตรวจสอบการขุดลอกคูคลองบริเวณคลองสามวากับสมุทรปราการเพื่อช่วยเร่งการระบายน้ำ โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จในวันที่ 13 ต.ค.นี้
นายวิม กล่าวถึงการประชุมแนวทางการแก้ไขปัญหาของ ศปภ.ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญระบบน้ำทั้งหมด เพื่อช่วยกันหาทางแก้ไข ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบตรงกันว่าควรจะต้องเร่งระบายน้ำใน 4 เขตหลัก คือ ลาดกระบัง มีนบุรี คลองสามวา และหนองจอกโดยเร็วที่สุด