นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ตรวจสอบในเรื่องคันกั้นน้ำทุกแห่งให้แข็งแรง โดยมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมรับผิดชอบ
ด้าน กรมชลประทาน ประสานแจ้งหน่วยราชการในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีและจังหวัดปทุมธานีดำเนินการเสริมคันกั้นน้ำให้อยู่ที่ระดับ 3.50 เมตร (รทก.) เพื่อรับสถานการณ์น้ำเหนือและน้ำทะเลหนุนสูงในช่วงวันที่ 13-18 ต.ค.นี้
ต่อข้อถามเรื่องความจำเป็นในการประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน นั้น นางฐิติมา กล่าวว่า นายกฯ ได้ให้เหตุผลว่า สถานการณ์ปัจจุบันไม่ได้มีความขัดแย้ง หรือ การขัดขวางการทำงานแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแต่อย่างใด ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพราะหากมีการประกาศใช้อาจมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว
"ตอนนี้เราได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งอาจจะทำให้ภาพของการท่องเที่ยว และการลงทุนตื่นตระหนก" โฆษกรัฐบาล กล่าว
ขณะเดียวกัน ไทยยังได้รับความช่วยเหลือจากหลายประเทศจากสถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ เช่น ประเทศจีนบริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ อีก 10 ล้านหยวน, นิวซีแลนด์ บริจาคเงิน 1 แสนดอลลาร์นิวซีแลนด์, สหรัฐฯ บริจาคเงิน 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ และพร้อมจะส่งทีมเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยมาให้ถ้าได้รับการร้องขอจากไทย และญี่ปุ่น บริจาคอุปกรณ์ และสิ่งของจำเป็น มูลค่า 30 ล้านเยน