พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) กล่าวว่า รัฐบาลจะพยายามป้องกันพื้นที่ กทม.อย่างเต็มที่ แต่จะเกิดน้ำท่วมหรือไม่ ยังไม่มีใครคาดการณ์ได้ เพราะขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัย คือ น้ำฝน น้ำเหนือ และ น้ำทะเลหนุน
"เราก็พยายามป้องกันให้ดีที่สุด ขณะนี้เราพยายามผลักดันน้ำลงสู่ทะเลให้เร็วที่สุด และขณะนี้ได้เริ่มผลักดันแล้ว ขณะนี้กทม.ร่วมกับปภ.ได้ทำคันกั้นน้ำ 3 แห่ง ตอนนี้กำลังเร่งดำเนินการ และคาดว่าจะแล้วเสร็จวันพรุ่งนี้ ประกอบด้วย ที่เมืองเอก จุดที่สอง ศาลายา-ตลิ่งชัน และที่คลอง 1-8 ซึ่งกำลังเร่งดำเนินการกันอยู่ โดยมีระยะทาง 16 กม."พล.ต.อ.ประชา กล่าว
พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ขณะนี้ทางการเตรียมมาตรการไว้ 2 ทางที่จะปฏิบัติ คือ การผันน้ำลงทะเล และการเอาน้ำจากคลองที่มาจากแม่น้ำป่าสัก ลงมาทางคลองระพีพัฒน์ คลองหกวา คลองแสนแสบ และคลองเล็กๆ อีก 5-6 คลอง ซึ่งจะเป็นการผลักดันลงแม่น้ำบางปะกง และลงทะเล
"เราพยายามอย่างเต็มกำลังความสามารถไม่ให้น้ำท่วม กทม. ทั้งนี้ จะมีอีกหนึ่งช่วงที่ต้องเฝ้าระวัง คือ วันที่ 28-31 ต.ค.เพราะเป็นช่วงที่น้ำทะเลขึ้นสูงสุด"พล.ต.อ.ประชา กล่าว
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ โดยเฉพาะกรณีที่เขื่อนในจังหวัดปทุมธานีพังว่า ขณะนี้น้ำได้ไหลเข้าท่วมจังหวัดปทุมธานี ทางผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามที่จะแก้ไขสถานการณ์อยู่ โดยพยายามซ่อมเขื่อนที่ อ.สามโคก เพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่เกษตรกรของประชาชน ประชาชนในจังหวัดปทุมคงจะประสบปัญหาน้ำท่วมแน่นอน โดยได้รับความช่วยเหลือจากทางกองทัพบก แต่ก็เกรงว่า น้ำจะท่วมลามไปถึงซีกจังหวัดนครปฐม ซึ่งก็ต้องฝากไปถึงชาว จ.นครปฐม ให้ทราบด้วย
ส่วนที่ จ.นนทบุรี พื้นที่ที่ประสบปัญหาหนัก คือ อ.ปากเกร็ด ที่น้ำไหลท่วม