นายพชร นริพทะพันธุ์ โฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) จะลดปริมาณการระบายน้ำจากเขื่อนทุกแห่งลงเหลือประมาณ 100 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)/วัน ดังนั้นจะมีมวลน้ำไหลลงสู่ จ.นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา และพื้นที่ภาคกลางตอนบนลดน้อยลง และขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกต่อข่าวลือเรื่องปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าสู่พื้นที่มากเกินจริง
ทั้งนี้จากการสำรวจความเสียหายสถานีไฟฟ้าแรงสูง 5 แห่งที่ถูกน้ำท่วม ได้แก่ สถานีไฟฟ้าแรงสูงท่าลาน, สถานีไฟฟ้าแรงสูงอยุธยา 1, สถานีไฟฟ้าแรงสูงอยุธยา 2, สถานีไฟฟ้าแรงสูงบางปะอิน 1 และสถานีไฟฟ้าแรงสูงบางปะอิน 2 พบว่า บางแห่งต้องหยุดจ่ายไฟ แต่ไม่มีผลกระทบต่อโรงงานอุตสาหกรรมที่ยังเดินเครื่องและผู้ใช้ไฟ เนื่องจากยังมีกระแสไฟจากแหล่งอื่นเสริมอย่างพอเพียง
ด้านระบบการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง LPG และ NGV ไปยังภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังสามารถขนส่งได้ตามแผนงานที่เตรียมการไว้ล่วงหน้า โดยสถานีบริการเชื้อเพลิงบนเส้นทางหลักของทั้งสองภาคจะยังให้บริการได้ตามปกติ
นอกจากนี้ พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพลังงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย กระทรวงพลังงาน ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงพลังงานทุกหน่วยระดมความช่วยผู้ประสบภัยอย่างเต็มความสามารถ โดยเฉพาะการช่วยเหลือเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงที่จัดส่งผ่าน ศปภ. หากไม่เพียงพอให้จัดหาเพิ่มเติมให้เพียงพอ