นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้กรมชลประทานเร่งรัดการระบายน้ำจากคลองรังสิตออกลงทะเลที่สถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ มากกว่า 50% เพื่อรอรับน้ำที่จะไหลจากจังหวัดอยุธยาที่คาดว่าจะถึงคลองรังสิต คลอง 13 คลอง 26 และคลอง 8 อีก 10 วัน
ทั้งนี้ คาดว่าปริมาณน้ำจากจังหวัดนครนายกที่จะลงมาถึงจะมีปริมาณประมาณ 180 ล้านลบ.ม./วินาที ส่วนน้ำที่มาจากจังหวัดอยุธยา จะมีปริมาณประมาณ 130 ล้านลบ.ม./วินาที ดังนั้น คาดว่าปริมาณน้ำทั้งหมดที่จะไหลมารวมทางด้านฝั่งตะวันออกของลุ่มน้ำเจ้าะยาจะมีปริมาณไม่เกิน 300 ล้านลบ.ม./วินาที ซึ่งยังคงเป็นปริมาณน้ำที่ควบคุมได้และไม่กระทบต่อประชาชนในพื้นที่
ขณะเดียวกัน มอบหมายให้กรมชลประทานดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่เพิ่มเติมที่สถานีสูบน้ำจุฬาลงกรณ์ ทำให้สามารถระบายน้ำจากคลองรังสิตลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงให้มีการเสริมคันกั้นน้ำฝั่งขวาของคลองระพีพัฒน์ คลอง 13 ในขณะเดียวกันให้ดำเนินการเสริมคันกั้นน้ำฝั่งขวาของคลองระพีพัฒน์ คลอง 13 ต่อเนื่องไปจนถึงคลองพระองค์ไชยานุชิต เพื่อป้องกันน้ำล้นตลิ่งและช่วยให้สามารถระบายน้ำได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นไปจนถึงคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต และเข้มงวดกับวิธีการเสริมคัน เพื่อสร้างความเข็มแข็งให้คันกั้นน้ำตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้กรมชลประทานเร่งรัดการขุดลอกคูคลอง ผักตบชวา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของน้ำตามแผนการรองรับน้ำเหนือ จึงค่อนข้างมั่นจใจว่าน้ำจะไม่ท่วมฝั่งตะวันออก แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญที่ว่าจะต้องไม่มีน้ำฝนตกมาเพิ่ม