นายวิม รุ่งวัฒนจินดา และ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ทีมโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) รายงานความคืบหน้าเหตุน้ำท่วมพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร โดยยังยืนให้ประชาชนปฏิบัติตามคำสั่งของ ศปภ.อย่างเคร่งครัดในการอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากปริมาณน้ำได้เข้าท่วมพื้นที่แล้วประมาณ 10% ของพื้นที่ทั้งหมด และมีโรงงาน 10 โรงงานที่มีระดับน้ำสูง 1.50 - 2.00 เมตร
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้สั่งทุกหน่วยงานระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วนในการสร้างพนังกั้นน้ำแห่ง 2 ในนิคมฯนวนครได้แล้วบางส่วน ส่วนที่ถูกน้ำท่วมก็ได้เร่งสูบน้ำออก
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนที่มีความพร้อมในการอพยพกรุณาปฏิบัติตามประกาศของ ศปภ.อย่างเคร่งครัด ขณะที่เจ้าหน้าที่จะเร่งสร้างพนังกั้นน้ำเพิ่มเติม และเปิดประตูระบายน้ำเพิ่ม ซึ่งขณะนี้สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มลดลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการระบายน้ำที่ท่วมขังลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นอย่างมาก
ด้านพล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า มาตรการอพยพเคลื่อนย้ายที่ ศปภ.ได้ประกาศออกไป เข้าใจว่ายากลำบากต่อการตัดสินใจของประชาชน แต่เนื่องจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ไม่สามารถหรือรั้งรอได้ เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อประชาน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามคำสั่งของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และฝากขอบคุณมายังหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือและคอยอำนวยความสะดวก
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้บัญชาการขอกำลังเสริมจากทหารในการเสริมแนวคันกั้นน้ำและระบายน้ำที่ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ คลองเปรมประชากร เพื่อไม่ให้น้ำไหลท่วม กทม.ชั้นใน
สำหรับศูนย์พักพิงทั้ง 4 แห่งที่ ศปภ.ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ ขณะนี้มีประชาชนทยอยเดินทางไปตามแผนที่วางไว้อย่างต่อเนื่อง และขอให้ประชาชนอย่ากังวลเรื่องความเป็นอยู่ เนื่องจากได้มีการจัดเตรียมที่นอน อาหาร เครื่องมือต่างๆ รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ในการดูแลไว้แล้ว
ขอยืนยันว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรัฐบาลไม่ได้นิ่งเฉย และพยายามกอบกู้สถานการณ์ให้เป็นปกติโดยเร็วที่สุด