น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางในการเร่งระบายน้ำหลังจากบินสำรวจพื้นที่บริเวณนิคมอุตสาหกรรมนวนคร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต และทางด้านสุวรรณภูมิ โดยแนวทางจะสั่งการให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รมว.มหาดไทยเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนในการขอความร่วมมือที่จะให้มีการเปิดประตูระบายน้ำในคลอง 1-6 อย่างเต็มที่ ซึ่งทางกรมชลประทานจะเป็นผุ้ดูแลในการควบคุมปริมาณน้ำเพื่อให้ผลักดันน้ำออกทางฝั่งตะวันออกโดยเร็ว
นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ในขณะนี้จำเป็นต้องระบายในทุกประตู เพราะน้ำมีจำนวนมาก ซึ่งหากไม่เร่งทำก็จะไม่สามารถผันน้ำได้ทันเวลา
"เราทำการระบายทุกวิถีทาง แต่มีน้ำทั่วประเทศไทยเป็นหมื่นๆ ล้านลบ.ม.เราไม่สามารถทำได้ทุกประตูในวันเดียว สิ่งที่จะพยายามทำ เราขอเปิดประตูเพื่อทางผ่านน้ำให้น้ำระบายลงเร็ว ถ้าทุกหน่วยงานให้ความร่วมมือน้ำจะไหลได้เร็วขึ้น"นายกรัฐมนตรี กล่าว
สำหรับพื้นที่ในสนามบินสุวรรภูมิทางรมว.คมนาคมได้ให้ความมั่นใจถึงแนวทางในการป้องกัน โดยมีการสร้างแนวคันกั้นน้ำ 2 ชั้นเพื่อป้องกันพื้นที่ในสนามบินอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าไม่เห็นด้วยกับการที่จะมีการเจาะใต้รางรถไฟเพื่อระบายน้ำออกจากนิคมฯ นวนคร เพราะมองว่าอาจจะไม่ได้ช่วยระบายน้ำในนิคมฯ แต่ควรจะเร่งไประบายออกทางคลองระพีพัฒน์และคลองรังสิตจะดีกว่า
สาเหตุที่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำได้ในขณะนี้เพราะปริมาณน้ำมีมากกว่าทุกปี และมากเป็นประวัติศาสตร์ เฉพาะในปีนี้นับเป็นหมื่นล้าน ลบ.ม. ซึ่งตามปกติจะเฉลี่ยที่ 5 พันล้านลบ.ม.และน้ำไม่มีโอกาสได้ระบาย เนื่องจากมีพายุหลายลูกสะสมมาช่วง 2-3 เดือน และการระบายน้ำออกทางเขื่อนก็ทำเต็มศักยภาพของทุกเขื่อนแล้ว, นอกจากนี้ สาเหตุที่ภูมิประเทศไม่เอื้ออำนวยต่อการระบายน้ำ ซึ่งในแผนระยะยาวจำเป็นต้องมีการวางแผนการระบายน้ำทั้งระบบ รวมถึงการวางผังเมือง ซึ่งจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการลงทุนในการแก้ไขปัญหานี้อย่างถาวร
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าการให้ข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ยังทำหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งหากมีความเคลื่อนไหวใดๆ จะมีการชี้แจงผ่านทางทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจย่างเป็นทางการ แต่การที่มีการชี้แจงจากหน่วยงานอื่นๆ นั้นถือเป็นความร่วมมือในการแจ้งเตือนให้กับประชาชนรับทราบ
แต่ต้องยอมรับว่าภาวะน้ำปีนี้มาเร็วกว่าที่คิด บางจุดทางรัฐบาลได้การแจ้งเตือนไปยังหน่วยงานโดยตรง แต่ในพื้นที่อาจจะไม่ระวังเพื่อไม่เชื่อว่าน้ำจะมาเร็วขน่าดนี้ ทั้งนี้ยังยืนยันว่า ยังสามารถประสานการทำงานร่วมกับทางกทม. ได้เป็นอย่างดี
ส่วนการที่นายบัน คี มูน เลขาเลขาธิการสหประชาชาติ ได้ต่อสายมาพูดคุยโดยแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น ซึ่งในขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือจาก UN ซึ่งทาง UN ก็ยินดีให้ความช่วยเหลือกับประเทศไทยในทุกๆ ด้าน