นายวิม รุ่งวัฒนจินดา โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) แถลงว่า จากสถานการณ์น้ำไหลเข้าคลองประปาตั้งแต่บริเวณประตูระบายน้ำเชียงรากน้อย จนทำให้แนวคันกั้นน้ำประปาเกิดความเสียหาย และส่งผลให้ปริมาณน้ำในคลองประปาสูงขึ้นกว่าระดับปกตินั้น ขณะนี้ ศปภ.ได้ประสานการประปานครหลวง(กปน.)แล้ว โดย กปน.ได้ขอกำลังเสริมจากหน่วยทหารพัฒนาเข้ามาช่วยกู้สถานการณ์ พร้อมการจัดส่งเครื่องมือหนักไปเร่งแก้แล้ว
ขณะเดียวกัน กปน.ได้แจ้งให้สำนักการระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร สูบน้ำระบายออกจากคลองประปาลงคลองสามเสน, คลองบางเขน, คลองบางซื่อ และจะปิดช่องทางน้ำซึ่งเป็นทางลอดคลองรังสิตเพื่อลดระดับน้ำที่สูงขึ้น
ส่วนปัญหาคุณภาพน้ำนั้น กปน.เตรียมปรับแต่งคุณภาพน้ำและเติมสารเคมีชนิดพิเศษเพื่อให้น้ำได้มาตรฐาน โดยกปน.ยืนยันว่าการให้บริการน้ำประปาในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะไม่มีผลกระทบ
ด้านนายเจริญ ภัสระ ผู้ว่าการ การประปานครหลวง(กปน.) กล่าวต่อว่า จากกรณีมวลน้ำจำนวนมากจากคลองบางหลวง-เชียงรากที่ไหลเข้าสู่คลองประปาเมื่อคืนนี้ จนทำให้พนังกั้นน้ำชำรุดเป็นแนวยาว 20 เมตร และระดับน้ำในคลองประปาสูงกว่าปกตินั้น ขณะนี้เหตุการณ์ได้คลี่คลายลงแล้วเมื่อช่วงเช้า โดยได้มีการเร่งระบายน้ำจากคลองประปาลงสู่คลองสามเสน และประสานไปยังกทม.ให้ระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา
พร้อมกันนี้ กปน.ได้ควบคุมระดับน้ำในคลองประปาโดยปิดช่องทางลอดคลองประปาที่ผ่านคลองรังสิต รวมทั้งเพิ่มการผลิตน้ำในโรงงานผลิตน้ำบางเขนเพื่อทดแทน
"ขณะนี้สถานการณ์น้ำในคลองประปาที่เพิ่มสูงขึ้นได้ปรับลดลงแล้ว กปน.ยืนยันการให้บริการน้ำประปา โดยเฉพาะคุณภาพน้ำของน้ำดื่มยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก" ผู้ว่าฯ กปน.กล่าว