การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) ระบุไม่อนุญาตให้ประชาชนนำรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาจอดบนทางด่วน เนื่องจากเป็นเส้นทางหลักที่จะใช้ในการลำเลียงขนส่งวัสดุ อุปกรณ์ ตลอดจนความช่วยเหลือต่างๆ ไปยังพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ส่วนกรณีที่มีประชาชนตื่นกลัวต่อเหตุการณ์น้ำทะลักเข้าคลองประปาช่วงกลางดึกวานนี้แล้วนำรถยนต์ส่วนตัวขึ้นมาจอดบนทางด่วนนั้น กทพ.จะอนุโลมให้เฉพาะที่นำไปจอดแล้ว แต่ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
"เราไม่ได้อนุญาตให้จอด แต่เมื่อประชาขนตื่นกลัวมากคงจะห้ามลำบาก จึงอยากขอความร่วมมือไปยังประชาชนว่าให้จอดเฉพาะช่องทางชิดซ้าย ซึ่งเป็นเลนฉุกเฉินเท่านั้น เพื่อไม่ให้การจราจรถูกล็อก แต่หากคนใดจอดล้นออกมาเลนสอง เราจะใช้รถยกเพื่อนำไปจอดต่อให้เป็นแถวเดียวเพื่อเพิ่มพื้นที่การจราจร" นายมณเฑียร กุลธำรง รองผู้ว่าการฝ่ายปฏิบัติการ กทพ. รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กทพ.กล่าว
จุดที่มีปัญหาดังกล่าว ซึ่ง กทพ.กำลังเร่งจัดระเบียบ คือ บริเวณทางต่างระดับงามวงศ์วานและประชาชื่น ซึ่งมีประชาชนนำรถยนต์ไปจอดประมาณ 500 คัน โดยมีการจอดรถยนต์ซ้อนคันจนเหลือช่องทางเดินรถเพียงช่องทางเดียว
ทั้งนี้ กทพ.ได้จัดจุดจอดรถไว้บริการประชาชนแล้วจำนวน 9 จุด ซึ่งมีประชาชนไปจอดเพียง 200 คันเท่านั้น และมีที่ว่างอีกถึง 2,700 คัน ได้แก่ 1.บริเวณใต้ทางด่วนด่านงามวงศ์วาน จำนวน 200 คัน 2.บริเวณใต้ทางด่วนด่านรัชดาภิเษก จำนวน 100 คัน 3.ลานกีฬาบริเวณใต้ทางด่วนหลังโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ จำนวน 200 คัน 4.ที่จอดรถบริเวณใต้ทางด่วนด่านอโศก 1 จำนวน 100 คัน 5.บริเวณใต้ต่างระดับวัชรพล ถนนรามอินทรา(ฝั่งเหนือ) จำนวน 200 คัน 6.บริเวณใต้ทางด่วนรามอินทรา ตั้งแต่จุดกลับรถ จำนวน 1,000 คัน ติดถนนรามอินทราถึงแนวคลอง 7.บริเวณใต้ทางด่วนด่านพระราม 9-1 จำนวน 500 คัน(ศูนย์ฝึกกู้ภัย ศูนย์ควบคุมทางพิเศษฉลองรัช) 8.บริเวณใต้ทางด่วนสาธุประดิษฐ์ จำนวน 100 คัน และ 9.บริเวณใต้สะพานพระราม 9 ฝั่งธนบุรี จำนวน 300 คัน
ขณะที่ พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ขอให้ประชาชนที่นำรถยนต์ไปจอดบนทางยกระดับ ทางด่วน และสะพานข้ามแยกต่างๆ เคลื่อนย้ายรถออกโดยด่วน เนื่องจากจะไม่ปลอดภัยและกีดขวางการจราจร โดยขอให้คำนึงถึงความจำเป็นส่วนรวมมากกว่าความจำเป็นส่วนตัว และขอให้นำรถยนต์ไปจอดไว้บริเวณถนนกาญจนาภิเษก หรือฝากตามบ้านญาติที่ไม่ได้อยู่ในจุดเสี่ยงทั้ง 7 เขตที่ กทม.ประกาศไว้ หรือนำไปจอดในต่างจังหวัดที่น้ำท่วมไม่ถึง ซึ่งตั้งแต่ช่วงเช้าได้เร่งประชาสัมพันธ์และสั่งการให้นำรถยกเคลื่อนย้ายรถยนต์ที่กีดขวางทางออกแล้ว โดยขณะนี้เส้นทางใน กทม.ทุกเส้นยังไม่มีน้ำท่วมสูง
อย่างไรก็ตาม หากเกิดกรณีฉุกเฉิน ตำรวจจะอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้ กทม.สามารถเคลื่อนย้ายประชาชนออกไปในที่ปลอดภัยได้อย่างรวดเร็ว