นายกฯ สั่งเร่งผันน้ำฝั่งตอ.ของกทม.ลงสู่ทะเล เสริมการเปิดประตูระบายน้ำ

ข่าวทั่วไป Thursday October 20, 2011 15:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในระหว่างการประชุมร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำ โดยระบุว่า แนวทางในการแก้ไขปัญหาขณะนี้ คือการเร่งผันน้ำทางฝั่งตะวันออกให้มากที่สุดเพื่อให้น้ำระบายออกลงสู่ทะเล และในส่วนของคลองทั้ง 7 คลอง ขณะนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว แต่จะมีการสั่งการให้ทางทหารช่างเข้าไปสำรวจเพื่อให้เกิดความแน่ใจอีกครั้ง

นอกจากนี้ จะต้องมีการเปิดประตูระบายน้ำทุกจุดและควบคุมการปิด-เปิด เพื่อให้น้ำได้ไหลออกทางตะวันออกเฉียงเหนือ และน้ำในส่วนของคลองต่างๆ จะได้ระบายไปตามธรรมชาติ ซึ่งการทำพนังกั้นน้ำรอบกทม.ขณะนี้เป็นเพียงการช่วยชะลอไม่ให้น้ำกระชากลงมาแรง แต่คงไม่สามารถหยุดน้ำได้

"เราต้องใช้วิธีการ ปิด-เปิดประตูระบายน้ำเป็นช่วงๆ เพื่อให้น้ำออกทางฝั่งตะวันออก ซึ่งถ้าน้ำได้ระบายไปตามแผนที่จะระบายตามแนวคันกั้นน้ำ น้ำจะค่อยๆ ไหลลงไปอย่างมีระบบ แต่หากการกั้นไม่เป็นผล จะทำให้ทลายเร็วขึ้น" นายกรัฐมนตรีกล่าว

สำหรับแม่น้ำท่าจีนในขณะนี้มวลน้ำทั้งหมดยังไปไม่ถึง เพราะบริเวณฝั่งแม่น้ำท่าจีนเป็นพื้นที่สูง ดังนั้นต้องเร่งผลักดันน้ำเพื่อระบายน้ำออกโดยเร็ว ส่วนคลอง 6 วา ที่กทม.รับผิดชอบ ได้มอบให้ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม ลงไปตรวจสอบในพื้นที่ และดูว่าจะมีส่วนช่วยในการเสริมพนังกั้นน้ำอย่างไรบ้าง

ทั้งนี้ ในส่วนของกทม. ขณะนี้ยืนยันว่ายังสามารถควบคุมสถานการณ์ รวมคลองประปาก็ยังควบคุมได้อยู่ แต่เพื่อความสบายใจ จึงอยากแนะนำให้ประชาชนยกสิ่งของที่มีค่าไว้บนที่สูงเหนือระดับน้ำประมาณ 1 เมตร รวมถึงการเคลื่อนย้ายรถยนต์ สำหรับบ้านที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ ควรไปหาที่จอดในพื้นที่ที่ปลอดภัย ทั้งนี้อยากให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกตกใจ เพราะจะทำให้การบริหารจัดการยากมาก

พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนในส่วนของคลองต่างๆ ที่จะให้น้ำไหลผ่านไปได้สะดวก ส่วนพื้นที่ที่น้ำท่วมขังในขณะนี้ก็จะเร่งระบายน้ำออกจากให้พื้นที่ แต่คันกั้นน้ำที่ได้ทำไว้บางครั้งอาจจะพยุงน้ำไม่อยู่ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นคันดินซึ่งอยู่ได้ไม่นาน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือในอนาคตต้องมีการวางระบบแผนบริหารจัดการน้ำอย่างถาวร

นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า บางพื้นที่อาจจะมีน้ำท่วมขังบ้างเพราะเกิดจากการทรุดตัวของพื้นดิน ซึ่งอาจจะทำให้น้ำล้นได้ ซึ่งจะเร่งสูบน้ำเพื่อระบายออกโดยเร็ว ทั้งนี้ได้มีการประสานกับกรุงเทพมหานคร(กทม.)ไปแล้วว่าในพื้นที่ใดที่มีการผันน้ำเข้าไปก็พร้อมเปิดประตูระบายน้ำ พร้อมกันนี้เพื่อสร้างความมั่นใจในส่วนของประตูระบายน้ำทุกจุด จะมีการส่งคณะกรรมการส่วนกลางของศปภ. สำรวจประตูระบายน้ำทุกจุดเพื่อให้เกิดความมั่นใจ และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปเฝ้าตามแนวคันกั้นน้ำ แล้วรายงานทุก 2 ชั่วโมง

ด้านนายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า สำหรับทิศทางน้ำที่ต้องการให้ออกทางฝั่งตะวันออก โดยจุดเริ่มต้นตั้งแต่คลองระพีพัฒน์ไปยังพื้นที่ของคลองรังสิตซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่แก้มลิง ทั้งนี้จะพยายามลดการกระจายพื้นที่ที่น้ำท่วม และจะเปิดแนวคลองตลอดคลอง 4-12 เพื่อให้น้ำลงไปด้านล่าง และเป็นการควบคุมน้ำไปในทิศทางที่ต้องการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ