นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อเสนอให้รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่ กทม.นั้นว่า ต้องมีการพิจารณาให้รอบคอบก่อน แต่ความจริงแล้วคิดว่าทุกหน่วยงานมีใจที่จะช่วยเหลือประเทศไทย ไม่อยากให้มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
"อยากขอให้คนไทยทุกคนร่วมใจกันทำงานเพื่อกู้วิกฤต เพราะถ้ายิ่งประกาศก็จะยิ่งทำให้ความมั่นใจของนักลงทุน ซึ่งทาง ศปภ.ก็ได้ความร่วมมือจากทุกเหล่าทัพเป็นอย่างดี ก็ไม่แน่ใจว่าจะดีขึ้นหรือไม่ถ้าใจของคนเราไม่ได้รวมกัน" น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ กล่าว
พร้อมระบุว่า คนไทยทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจช่วยกันแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นด้วยความเป็นเอกภาพ โดยอย่าหยิบโยงเอาเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และขอให้ทุกฝ่ายทำหน้าที่ที่รับผิดชอบอยู่อย่างเต็มที่
"วันนี้คนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นในต่างจังหวัดหรือ กทม.ต้องมีภาระในการรับผิดชอบช่วยกัน จึงขอให้ทาง กทม.ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ขอความกรุณาอย่ามองว่าส่วนไหนเป็นหน้าที่ของ ศปภ.หรือของรัฐบาล ซึ่งถ้าทาง กทม.จะช่วยเหลือได้ก็ยินดี และทาง ศปภ.ก็พร้อมที่จะสนับสนุน แต่ถ้าคิดว่าทาง กทม.ดูแลไม่ไหว ทาง ศปภ.จะเข้าไปดูแล และยินดีให้ความช่วยเหลือทาง กทม.อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันต้องขอแรงรวมพลังช่วยด้วยกันทุกส่วน เพราะครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่หนักมาก และต้องการความเป็นเอกภาพ ถ้าต่างคนต่างมองในมุมของตัวเอง วันนี้ประเทศเดินไม่ได้" น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้จะเรียกประชุมทุกหน่วยงานมาร่วมประเมินสถานการณ์และทบทวนการทำงานอีกครั้งว่าส่วนไหนบ้างที่เป็นอุปสรรค ซึ่งต้องตัดสินใจในการทำงานให้เป็นเอกภาพมากขึ้น รวมถึงต้องวางแผนในการดูแลประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะหารือกับทางผู้ว่าฯ กทม.ให้เกิดความชัดเจน โดยหวังว่าจะไม่เล่นการเมืองกันในช่วงนี้ หวังว่าจะช่วยกันทำงานเพื่อช่วยเหลือประชาชน และอย่ามองว่าคนละพรรคจะทำงานร่วมกันไม่ได้ ตนเองยินดีเข้าไปทำงานกับทุกหน่วยงาน และยินดีรับฟังทุกหน่วยงานเพื่อประชาชนทุกคน ไม่อยากจะพูดอะไรออกไปแล้วเป็นการทำให้เข้าใจผิดกัน ต้องมองในเจตนาดีว่าทาง กทม.ก็ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ และขอให้ร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้ประชาชนผ่านวิกฤตไปได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์น้ำล่าสุดทะลักเข้าพื้นที่เขตดอนเมือง ซึ่งจะเรียกประชุมทุกหน่วยงานเพื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้ง รวมถึงจะดูในเรื่องของเส้นทางคมนาคม ซึ่งอาจจะจัดสรรที่ให้ประชาชนจอดรถ และขอบางพื้นที่สำหรับการจราจร รวมถึงการดูแลสถานที่สำคัญ อาทิ พระราชวัง หรือสุวรรณภูมิ จะต้องมีผู้รับผิดชอบดูแลรักษาด้วย ขณะเดียวกันก็จะมีอีกทีมที่ดูแลความปลอดภัยในเรื่องของการอพยพประชาชนให้มากขึ้น และเรื่องการหาศูนย์อพยพเพิ่มเติม และลานจอดรถ
ส่วนการประเมินสถานการณ์น้ำท่วมใน กทม.นั้นต้องขอดูการระบายน้ำก่อน ซึ่งน้ำในส่วนของคลองเปรมประชากรมามาก พื้นที่เป็นแอ่ง ซึ่งต้องการให้น้ำออกทางขวา และเปิดเส้นทางคลองรังสิตประยุรศักดิ์ ซึ่งต้องมีการระบาย แต่เนื่องจากน้ำขึ้นสูงจึงไม่แน่ใจว่าเครื่องระบายน้ำจะทำงานได้เต็มที่หรือไม่ กำลังให้ทางกรมชลประทานประเมินสถานการณ์ อยากให้ประชาชนใน กทม.ทุกส่วนทั้งหมดขนย้ายของขึ้นที่สูงเพื่อเป็นการเตรียมตัว ทั้งนี้อย่าตระหนก ทาง ศปภ.จะพยายามประเมินสถานการณ์ให้เร็วและเตือนประชาชน