สหภาพยุโรป(อียู)ประกาศว่าได้จัดเตรียมเงินช่วยเหลือก้อนใหญ่แก่ประเทศไทยประมาณ 60 ล้านบาท หรือประมาณ 1.5 ล้านยูโรเพื่อใช้ในการบรรเทาสาธารณภัยที่เกิดจากอุทกภัยครั้งใหญที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ โดยหน่วยงานช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและคุ้มครองพลเรือนของคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป(European Commission's Humanitarian Aid and Civil Protection department:ECHO)จะเป็นต้นสังกัดในการส่งผ่านเงินช่วยเหลือนี้มายังประเทศไทยในวันที่ 24 ต.ค.นี้
ทั้งนี้ เอกอัครราชทูต เดวิด ลิปแมน หัวหน้าสำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย จะเดินทางไปยังศูนยปฎิบัติการชวยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม (ศปภ.)เพื่อมอบเงินช่วยเหลือ
เอกอัครราชทูต เดวิด กล่าวว่า สหภาพยุโรปจะให้ความช่วยเหลือในปฎิบัติการบรรเทาภัยพิบัติของประเทศไทยที่กำลังดำเนินอยู่ ณ ขณะนี้ผ่านเงินช่วยเหลือจำนวนนี้ ซึ่งทางสหภาพยุโรปเองกำลังทำงานรวมกับหน่วยงานที่บรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ที่กำลังประสบภัยอยู่ โดยรวมไปถึงเอ็นจีโอต่างๆ หน่วยงานของสหประชาชาติ(ยูเอ็น) หน่วยงานกาชาดสากล เพื่อให้ความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรปมีประโยชน์กับผู้ที่ประสบภัยให้ได้มากที่สุด
เงินช่วยเหลือดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในการจัดซื้อเรือทองแบน สิ่งของบรรเทาสาธารณภัย น้ำดื่ม และสุขาลอยน้ำ เงินช่วยเหลือนี้ได้รับการอนุมัติหลังจากที่หน่วยงานช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมฯ ของ ECHO ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาคีต่างๆ ในการประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นจากอุทกภัยในครั้งนี้และความต้องการที่จำเป็นที่สุดในการบรรเทาสาธารณภัยให้กับผู้ประสบภัยในประเทศไทย
สำหรับเงินช่วยเหลืออุทกภัยครั้งใหญ่ในไทยครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของเงินช่วยเหลือเพื่อบรรเทาภัยพิบัติที่ทางสหภาพยุโรปจัดไว้เพื่อช่วยเหลือทั้งภูมิภาคอาเซียนที่กำลังประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติอยู่ ณ ขณะนี้ โดยมีจำนวนเงินทั้งหมด 10 ล้านยูโรป หรือ ประมาณ 400 ล้านบาท คาดว่าจะมีประชาชนจำนวน 500,000 ถีง 1 ล้านคนในประเทศไทย กัมพูชา ลาว ฟิลิปปินส์ และเวียดนามได้รับความช่วยเหลือจากเงินสนับสนุนก้อนนี้