ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวว่า สถานการณ์น้ำน่าเป็นห่วงเนื่องจากระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยวานนี้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงที่ระดับ 2.40 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และทำลายสถิติระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่ง กทม.ขอย้ำเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองเชื่อมโยงแม่น้ำเจ้าพระยาเฝ้าระวังเป็นพิเศษ และดำเนินการด้านต่างๆ เพื่อให้พร้อมรับมือกับระดับน้ำเจ้าพระยาที่จะสูงขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้
โดยขณะที่ระดับน้ำในคลองสอง และคลองหกวาเพิ่มขึ้น 5 เซนติเมตร ทำให้ระดับน้ำในคลองดังกล่าวสูง 2.43 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง คลองทวีวัฒนาสูงเพิ่มอีก 7 เซนติเมตร รวมเป็น 2.11 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งประเมินแล้วว่าระดับน้ำในคลองจะไม่ลดลงต่อจากนี้ไป
อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และขอให้ทุกฝ่ายเตรียมตัวให้พร้อมรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น โดยพื้นที่ที่จะต้องเฝ้าระวังและดูแลเป็นพิเศษ คือ 13 เขตริมเจ้าพระยา และพื้นที่กรุงเทพเหนือ รวมถึง 4 เขตด้านตะวันออก ได้แก่ ลาดกระบัง หนองจอก มีนบุรี คลองสามวา คันนายาว บางเขน สายไหม ดอนเมือง จตุจักร บางซื่อ หากมีพื้นที่อื่นๆ จะแจ้งในทราบในโอกาสต่อไป
นอกจากนี้ กทม.ได้เสริมแนวคันกั้นน้ำบริเวณโรงพยาบาลศิริราชจาก 3 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็น 3.5 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และบริเวณหน้าพระบรมมหาราชวังซึ่งสร้างคันกั้นบริเวณท่าราชวรดิษฐ วางแนวป้องกันสูง 3 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดย กทม.จะเน้นเฉพาะบางพื้นที่เท่านั้น เนื่องจากไม่สามารถสร้างแนวป้องกันตลอดสองฝั่งเจ้าพระยา 80 กิโลเมตรได้
ทั้งนี้ กทม.แจ้งไปยังกระทรวงการต่างประเทศถึงข้อห่วงใยในความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของเอกอัครราชทูต และทูตานุทูต ประจำกรุงเทพมหานคร และทำเนียบเอกอัครราชทูตประจำกรุงเทพมหานคร โดย กทม.จะทำงานร่วมกับกรมการกงสุล โดยให้สำนักงานเขตเข้าพบทูตานุทูตและเจ้าหน้าที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและซักซ้อมความเข้าใจกับสิ่งที่จะต้องปฏิบัติในระหว่างนี้
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กทม.ได้ยกร่างหนังสือถึงศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย(ศปภ.) ในความร่วมมือหลายเรื่อง ซึ่งเป็นวิธีการที่จะดูแลแก้ไขปัญหาต่างๆ ในพื้นที่ กทม.อย่างครบวงจร ไม่ได้เลี่ยงว่าไม่ให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ แต่สิ่งสำคัญคือ จะต้องมีวิธีบริหารจัดการน้ำ เพื่อให้น้ำผ่านพื้นที่กรุงเทพฯ ไปยังพื้นที่อื่นอย่างสมเหตุสมผล รวมถึงการยืนยันให้กรมชลประทาน เปิดประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำให้ครบทุกแห่งเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเร็ว ทั้งนี้ กทม.ขอขอบคุณ ศปภ.ที่ตอบสนองข้อเรียกร้องของกทม. เช่น การเปิดประตูระบายน้ำหนองจอก และประตูระบายน้ำประเวศบุรีรมย์ของกรมชลประทาน เพื่อช่วยระบายน้ำพื้นที่ทางเหนือให้ออกไปยังพื้นที่ตะวันออกมากที่สุด
ล่าสุด ผู้ว่าฯ กทม.ระบุว่า ขณะนี้ปรากฏว่าน้ำเหนือได้ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วและมีปริมาณจำนวนมาก ประกอบกับน้ำทะเลหนุนในระดับที่มากกว่าปกติ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูงขึ้นมากกว่าปกติอีก 20-30 ซม. จากวันที่ 25 ต.ค.54 ไปถึงช่วงวันที่ 28-29 ต.ค.54 และอาจจะเอ่อท่วมพื้นที่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา
โดยวานนี้ ระดับน้ำทะเลหนุนสูง 1.11 เมตร ส่งผลให้ระดับน้ำเจ้าพระยาสูง 2.40 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และหากเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องจนถึงช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูงสุดปลายเดือนนี้ อาจส่งผลให้ระดับน้ำเจ้าพระยาสูง 2.60 เมตร ซึ่งสูงกว่าคันกั้นน้ำ 10 ซม. ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน
"ในวันนี้ตั้งแต่ช่วงบ่าย 2 โมงจนถึง 4 โมงเย็นโดยประมาณ ระดับน้ำทะเลจะหนุนสูงสุด กทม.จึงสั่งการให้ 13 เขตประจำในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด" ผู้ว่าฯ กทม.ระบุ
ขณะเดียวกัน กทม.ได้ออกประกาศขอความร่วมมือให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาช่วยกันดูแล ซ่อมบำรุง หรือเสริมความแข็งแรงของรั้วเขื่อน และกำแพงตามแนวเขื่อนที่ใช้งานมานานปีอาจมีสภาพทรุดโทรม หรือมีจุดรั่วซึมและมีการไหลย้อนกลับของน้ำตามท่อระบายน้ำไหลเข้าบ้านเรือน