ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ในฐานะผู้ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ กทม.เชื่อว่าน้ำคงไม่ทะลักเข้าท่วมทุกเขตของกรุงเทพฯ โดยอาจจะมีบางเขตในพื้นที่ชั้นในที่ไม่ถูกน้ำท่วม ซึ่ง กทม.จะดูแลป้องกันอย่างเต็มที่ให้ดีที่สุด
อย่างไรก็ตามย อมรับว่าระบบการป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพยังมีจุดอ่อน เนื่องจากแนวเขตป้องกันน้ำท่วมและการระบายน้ำหลายจุดสำคัญอยู่นอกเขตพื้นที่การรับผิดชอบของกทม.อาทิ คันกั้นน้ำที่อำเภอหลักหก จังหวัดปทุมธานี, คลองมหาสวัสดิ์ และเขตถนนพหลโยธินตัดคลองรังสิต
"ทางรัฐบาลได้ประเมินว่ากทม.จะท่วมทุกเขต ซึ่งผมก็เคารพในการประเมินของรัฐบาล แต่ในฐานะที่ผมเป็นผู้นำของ กทม.ก็จะพยายามทำทุกทางเพื่อให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมให้น้อยที่สุด แต่ถ้ามันท่วมทุกพื้นที่จริงระดับความรุนแรงก็จะต่างกันมาก"ผู้ว่ากทม. กล่าว
สำหรับการดูแลและป้องกันปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพในระยะยาวนั้น ทาง กทม.และรัฐบาลควรต้องหันมาคุยกันอย่างจริงจัง เพื่อหาแนวทางป้องกันอย่างครบวงจร เช่น จะมีการผันน้ำไปพื้นที่ไหน, ควรมีการหาพื้นที่แก้มลิงเพื่อมาทดแทนที่หนองงูเห่าที่นำไปสร้างเป็นสนามบินสุวรรณภูมิ,พื้นที่จุดอ่อนหลายจุดอยู่นอกเหนือเขตอำนาจของกทม.ต้องหาทางมาปิดจุดอ่อนให้ได้ รวมทั้งต้องมีการเครื่องมือของหน่วยงานต่างๆให้สามารถใช้ได้จริง
สำหรับพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมในขณะนี้ หลังจากน้ำทะลักเข้าสู่คลองทวีวัฒนา ทำให้เขตดังกล่าวอยู่ในสภาวะที่น่าเป็นห่วง ซึ่ง กทม.กำลังพิจารณาว่าจำเป็นต้องสั่งให้มีการอพยพประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวหรือไม่ คาดว่าภายในอีก 3-4 วันนี้อาจต้องมีการประกาศอพยพผู้คนเพิ่มมากขึ้น แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นเขตใด เพราะประเมินว่าในช่วง 2-3 วันนี้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะขึ้นสูงสุดอีกครั้ง จากระดับสูงสุดก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2.40 เมตร ซึ่งจะทำให้แนวเขื่อนป้องกันน้ำท่วมริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบางส่วนไม่สามารถกันไว้ได้
ในส่วนของภาคเอกชนขณะนี้ยังไม่ได้มีการร้องขอให้กทม.เข้าไปดูแลพื้นที่ใดเป็นพิเศษ แต่ทางกทม.ก็มีการดูแลและป้องกันย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) ทั้งสุขุมวิท, สาธร, สีลม, ราชประสงค์อย่างเต็มที่