นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะป้องกันพื้นที่กรุงเทพชั้นในอย่างเต็มที่ และจะเร่งผลักดันน้ำให้เร็วมากขึ้น ส่วนกรณีที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครออกมาระบุว่า ไม่เชื่อว่าน้ำเหนือหมดไปแล้วนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าอาจจะเป็นการมองคนละมุม สิ่งที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) หรือรัฐบาลประกาศออกไปไม่ได้หมายความว่า น้ำเหนือจะไม่ไหลเข้ามาในกรุงเทพมหานคร เพียงแต่จะเร่งผลักดันน้ำไหลตามคันคลองให้ดีขึ้น
และเชื่อว่าหลังน้ำทะเลจะหนุนสูงสุดอีกครั้งในวันนี้ ระดับน้ำในคลองต่างๆจะลดลง จึงเชื่อว่าการระบายน้ำออกทะเลทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกจะดีมากขึ้น ทั้งนี้หลังจากวันนี้รัฐบาลจะประเมินว่าหลังน้ำทะเลหนุนสูงสุดแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป
ขณะที่ปริมาณน้ำในอยุธยาเริ่มนิ่งแล้ว แต่คงต้องใช้เวลาอีก 1-2 สัปดาห์ที่ปริมาณน้ำจะลดลงได้ ส่วนความช่วยเหลือสำหรับนิคมอุตสาหกรรม รัฐบาลได้เตรียมแผนระยะยาวที่จะให้ความช่วยเหลือ โดยยืนยันว่าขณะนี้นักลงทุนญี่ปุ่นยังมีความมั่นใจ หลังจากรัฐบาลได้ชี้แจงผ่านสถานทูตและนักลงทุนในเบื้องต้นไปแล้ว
ทั้งนี้การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น รัฐบาลจะอนุญาตให้มีการนำเครื่องจักรในลักษณะ Fast Track และการยกเว้นภาษีอาการ รวมถึงจะมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญมาเร่งกู้เครื่องจักร พร้อมทั้งธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (เจบิค) ก็พร้อมจะให้สินเชื่อแก่บริษัทเอกชนของญี่ปุ่นที่มาลงทุนในประเทศไทยด้วย
นอกจากนี้ ยอมรับว่า ในส่วนของงบประมาณที่กันจากหน่วยงานราชการต่างๆ 10% มีอยู่ประมาณ 8 หมื่นล้านบาท รวมถึงสินเชื่อตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไป 3.25 แสนล้านบาท แต่ในระยะยาวจะมีการประกาศแนวทางการระดมเงินหรือการให้ความช่วยเหลือต่อไป
ส่วนกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า อาจต้องใช้ฟื้นฟูนานถึง 3 เดือนนั้น คงจะหมายถึงการระบายน้ำและกอบกู้ถนนหรือสถานที่ต่างๆ แต่ยืนยันว่ารัฐบาลคงจะไม่รอถึง 3 เดือน คงจะเร่งดำเนินการในทันที