นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า วันนี้ได้สั่งระดมทีมแพทย์เคลื่อนที่ 38 ทีม จากต่างจังหวัดเข้าไปให้บริการประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ กทม. นนทบุรีและปทุมธานี ที่สถานการณ์กำลังวิกฤติหนัก อย่างเขตบางพลัด ทวีวัฒนา ดอนเมือง เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น และยังมีคนติดอยู่ในพื้นที่จำนวนมาก เนื่องจากที่อยู่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ในซอยลึกและซับซ้อนจนความช่วยเหลือที่มีอยู่ไม่อาจดูแลได้ทั่วถึง
ทั้งนี้ ขอให้เจ้าหน้าที่แจ้งต่อประชาชนในพื้นที่ประสบภัยหากติดอยู่ในบ้านแล้วมีผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องการความช่วยเหลือให้ใช้ผ้าสีเขียวแขวนไว้ที่หน้าต่างบ้านให้เห็นชัด เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่ามีผู้ป่วยเรื้อรังอยู่ในบ้าน ทีมแพทย์จะได้เข้าไปให้การดูแลประเมินสุขภาพ
สำหรับพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ที่ระดับน้ำเริ่มลดลงขอให้เร่งฟื้นฟูความสะอาดสุขาภิบาล สิ่งแวดล้อม ขยะ สิ่งปฏิกูล เพื่อป้องกันโรคระบาด ที่อาจเกิดขึ้นหลังน้ำท่วม โดยเฉพาะโรคฉี่หนู โรคอุจจาระร่วงอย่างแรง ไข้หวัดใหญ่ โรคตาแดง และโรคไข้หวัดนก เน้นดูแลพิเศษในพื้นที่ที่เคยพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดนก อาทิ จังหวัดพิจิตร อุทัยธานี และพิษณุโลก ซึ่งแม้ประเทศไทยจะปลอดการระบาดไปมากกว่า 4 ปีแล้วก็ตาม แต่สภาพน้ำท่วมกับอากาศที่เริ่มเย็นลงเป็นปัจจัยเอื้ออย่างมากต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรคที่ก่อโรค
ทางด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการวางความพร้อมของโรงพยาบาลใน กทม. ขณะนี้ได้ย้ายผู้ป่วยหนักที่อาการคงที่ออกไปเรื่อยๆ รวม 395 ราย การเคลื่อนย้ายเป็นไปด้วยดี หากมีผู้ป่วยหนักที่จะต้องย้ายออกไปอีก ก็มีเตียงรองรับเต็มที่ สำหรับการตั้งโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ กทม.กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับ กทม. ตั้ง 3 มุมเมือง ด้านตะวันออก มอบให้โรงพยาบาลนพรัตนราชธานีดูแล ด้านเหนือตั้งที่มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร ให้โรงพยาบาลสมุทรปราการรับผิดชอบ ด้านตะวันตกตั้งที่ขนส่งสายใต้ใหม่ มอบให้โรงพยาบาลสุพรรณบุรีและเพชรบุรีจะเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป