นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระบุว่า เตรียมเสนอแผนบริหารจัดการน้ำทั้งระบบรวมทั้งแนวทางในการป้องกันปัญหาน้ำท่วมต่อนายกรัฐมนตรี พร้อมขอให้ทุกฝ่ายยอมรับว่าปริมาณน้ำในปีต่อๆ ไปจะเพิ่มขึ้น 50,000-100,000 ล้านลบ.ม/ปี ซึ่งปกติปริมาณน้ำที่เปลี่ยนจากน้ำฝนและไหลลงสู่คูคลองและแม่น้ำต่างๆ มีปริมาณ 200,000 ล้านลบ.ม./ปี และจะเปลี่ยนมาเป็นน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค 20,000 ล้านลบ.ม./ปี
ดังนั้น จึงอยากให้คนไทยยอมรับว่าสภาพอากาศรวมถึงภาวะโลกร้อนส่งผลทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น ซึ่งประชาชนต้องปรับตัวให้อยู่กับน้ำได้ เพราะน้ำจะมีปริมาณมากกว่าเดิมและมาเร็วกว่าเดิม
สำหรับแผนที่เตรียมจะเสนอนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย 1.ด้านการเกษตร จะต้องปรับเปลี่ยนปฏิทินการเพาะปลูกให้เร็วกว่าเดิม เช่น อาจต้องปลูกข้าวเร็วขึ้น ซึ่งอาจทำให้ต้องปรับเปลี่ยนสายพันธุ์ข้าวใหม่ 2.การสร้างเขื่อน ต้องเน้นวัตถุประสงค์ในการควบคุมปริมาณน้ำเป็นหลัก โดยต้องออกแบบให้สามารถดูดน้ำจากใต้เขื่อนขึ้นไปเหนือเขื่อนได้ เพราะปริมาณน้ำในปีต่อไป จะมีฝนตกใต้เขื่อนมากขึ้น
3.กรุงเทพฯ จำเป็นต้องจัดหาพื้นที่สำหรับเป็นฟลัดจ์เวย์ โดยมี 2 แนวทาง คือ 1.การทำแม่น้ำเจ้าพระยา 2 2.เช่าพื้นที่ประชาชนทำพื้นที่ฟลัดจ์เวย์โดยเฉพาะ โดยยอมจ่ายค่าที่ดินให้ประชาชนชดเชยการจะนำไปใช้เป็นพื้นที่ทางการเกษตร ซึ่งควรทำในพื้นที่ฝั่งตะวันออกเป็นหลัก เพราะสามารถระบายน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ได้เร็วกว่าการทำฟลัดจ์เวย์ในฝั่งตะวันตกที่จะระบายน้ำลงสู่แม่น้ำท่าจีน
4.จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนปฏิทินการท่องเที่ยวของไทย จากเดิมที่มีช่วงไฮซีซั่นในเดือน พ.ย.-ธ.ค. 5.ปรับเปลี่ยนรูปแบบการสร้างแบบใหม่ด้วยการยกพื้นสูงให้ชั้นล่างเป็นพื้นที่โล่ง หรือเปลี่ยนวัสดุสร้างบ้านให้สามารถลอยอยู่บนน้ำได้ 6.จำเป็นต้องถมพื้นที่ โดยอาจมีการออกกฎหมายมาควบคุม รวมทั้งควบคุมความสูงของระดับพื้นที่ให้เท่ากันด้วย
7.ควรจัดตั้งบริษัทขุดลอกคูคลอง เพื่อเข้ามาบริหารจัดการในการขุดลอกคูคลองอย่างเป็นระบบ 8.ในส่วนของนิคมอุตสาหกรรมนั้น ควรปรับเปลี่ยนสถานที่ตั้งโดยย้ายไปอยู่บนพื้นที่สูง เช่น สระบุรี, นครราชสีมา หรือทุ่งกุลาร้องไห้ หรือหากไม่มีการเปลี่ยนสถานที่ก็ควรวางแผนผังนิคมอุตสาหกรรมใหม่ โดยควรทำเขื่อนล้อมรอบนิคมอุตสาหกรรม 9.ปรับเปลี่ยนระบบชลประทาน ซึ่งควรจัดตั้งกรมระบายน้ำ เพื่อบริหารจัดการการระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งส่วนตัวเห็นด้วยหากจะมีการจัดตั้งกระทรวงน้ำขึ้น
นายปลอดประสพ เชื่อว่า ภายใน 7 วัน ปริมาณน้ำในพื้นที่ จ.ปทุมธานี และนนทบุรี จะเริ่มลดลง และจะไม่มีปริมาณน้ำก้อนใหญ่ไหลเข้ามาสู่พื้นที่อีก