ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ ครองตำแหน่งผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกจากการจัดอันดับ 70 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลของนิตยสารฟอร์บส์ โดยเป็นการทวงตำแหน่งคืนมาจากประธานาธิบดีหู จิ่นเทาของจีน ซึ่งหล่นมาอยู่อันดับ 3 ในปีนี้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะของญี่ปุ่น อยู่อันดับ 62 แต่ยังตามหลังนายมาซาอากิ ชิรากาวะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นในอันดับ 36 และนานยมาซาโยชิ ซัน ประธานกลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ซอฟท์แบงค์ ในอันดับ 60
“แม้ว่าสถานะทางการเมืองของนายโอบามาจะสั่นคลอน แต่เขาก็ยังคงเป็นผู้นำของประเทศเศษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดและมีความเคลื่อนไหวสูงสุดในโลก เป็นผู้บัญชาการกองกำลังทหารที่อันตรายที่สุดในโลก และยังเป็นผู้นำโลกเสรีอย่างไม่เป็นทางการด้วย" ฟอร์บส์ระบุบนเว็บไซต์
ในทางตรงกันข้าม "อำนาจอันล้นเหลือของปธน.หูกำลังลดลง เนื่องจากเริ่มวางมือจากตำแหน่งสำคัญๆทางการเมือง"
สำหรับบุคคลผู้ทรงอิทธิพลอันดับ 2 ของโลกในปีนี้คือประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ขณะที่นางแองเจลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีอยู่อันดับ 4
ไม่เพียงแต่ผู้นำโลกเท่านั้น แต่การจัดอันดับดังกล่าวยังรวมถึงนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและผู้บริหารระดับสูงในวงการสื่อและกีฬา หรือแม้แต่เจ้าพ่อค้ายาด้วย
อันดับ 5 เป็นบิล เกตส์ ส่วน มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กอยู่อันดับ 9 คิม จอง อิล ผู้นำเกาหลีเหนืออยู่อันดับ 37 มหาเศรษฐีนักค้ายาอย่าง โจอาควิน กุซมัน โลเอรา ซึ่งเป็นชายที่ทางการเม็กซิโกต้องการตัวมากที่สุด อยู่อันดับ 55
ในการคัดเลือก ฟอร์บส์พิจารณาจากปัจจัย 4 ประการด้วยกัน คือ บุคคลผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา แหล่งเงินในกุมมือ การมีอิทธิพลข้ามกลุ่ม และความกระตือรือร้นที่จะใช้อำนาจที่มีอยู่เพื่อเปลี่ยนแปลงโลก