นายกฯ ยอมรับศปภ.-กทม.มีปัญหาประสานงาน ฝั่งตต.อาจรับสภาพน้ำท่วมอีกนาน

ข่าวทั่วไป Friday November 4, 2011 12:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ยังมีปัญหาในเรื่องของการประสานงานของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) และกรุงเทพมหานคร(กทม.) จึงได้มาฟังข้อมูลที่สำนักการระบายน้ำของ กทม.ในช่วงเช้าวันนี้เพื่อซักซ้อมข้อมูลของทุกหน่วยงานให้เข้าใจตรงกัน ซึ่งคณะกรรมการที่ได้ประชุมในวันนี้จะเป็นหน่วยงานหลักในการควบคุมเปิด-ปิดประตูระบายน้ำด้วย

ส่วนการจะประกาศวันหยุดราชการเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ต้องรอดูสถานการณ์ก่อนว่าระดับน้ำหลังจากการนำกระสอบทรายขนาดยักษ์ หรือ Big Bag ไปเรียงเพื่อขวางทางน้ำ แต่ในขณะนี้หลายบริษัทก็ได้หยุดทำการไปแล้ว ซึ่งหากมีการประกาศเพิ่มเติมก็จะไม่มีเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน นอกจากนั้นยังขอดูสถานการณ์น้ำท่วมบริเวณ 5 แยกลาดพร้าวก่อนตัดสินใจว่าจะย้ายที่ทำการศปภ.หรือไม่

นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่กทม.ฝั่งตะวันตก ต้องอยู่ในสภาพรับน้ำเป็นเวลาอีกนาน เพราะการระบายน้ำทางฝั่งตะวันตกทำได้ยากกว่าฝั่งตะวันออก รวมถึงรอยแตกตามแนวคันกั้นน้ำทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา และขณะนี้ยังไม่มีมาตรการใดเพิ่มเติมมากกว่านี้อีกแล้วหลังจากรัฐบาลได้นำถุงกระสอบทรายขนาดใหญ่ไปวางตามแนวคันกั้นน้ำ ซึ่งการวางกระสอบทรายยักษ์ที่ดำเนินการอยู่เป็นเพียงการชะลอการไหลของน้ำเท่านั้น และให้เจ้าหน้าที่ไปเฝ้าตามแนวกระสอบทราย

ทั้งนี้ การที่เคยระบุว่าวันที่ 31 ต.ค.สถานการณ์น้ำจะดีขึ้นนั้น หมายถึงระดับน้ำทะเลหนุนจะลดลง คงไม่สามารถทำให้น้ำท่วมหายไปได้ในทันที

ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการ กทม.ยอมรับว่า ปริมาณน้ำที่เข้ามาในกทม.ยังแผ่กระจายเป็นวงกว้างในหลายพื้นที่ โดยยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีพื้นที่ไหนบ้างในกทม.ที่จะปลอดภัยจากสถานการณ์น้ำท่วม แต่จะพยายามป้องกันอย่างดีที่สุด

ทั้งนี้ เชื่อว่าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ตอนกลาง และตอนเหนือของกทม.จะไม่รุนแรง แต่เป็นห่วงกทม.ฝั่งตะวันตกที่มีปริมาณน้ำจำนวนมาก ไหลมาจาก จ.นครปฐม และจ.นนทบุรี นอกจากนี้ เรื่องของระบบระบายของกทม. ยืนยันว่า ระบบระบายน้ำออกแบบมารองรับการระบายน้ำฝน รวมถึงน้ำล้นตลิ่ง และไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับการระบายน้ำจากทางตอนเหนือสู่ตอนใต้

ผู้ว่าฯ กทม.ระบุว่า จุดอ่อนของกรุงเทพฯ คือในพื้นที่ของจังหวัดในเขตปริมณฑลที่มีน้ำเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นจ.ปทุมธานี ในส่วนของหลักหก หรือ อ.บางกรวย บางบัวทอง ริมคลองมหาสวัสดิ์ ซึ่งในระยะสั้นคงไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ในระยะยาวก็จะสามารถทำงานร่วมกันได้

รายงานข่าวจากที่ประชุมเพื่อติดตามการระบายน้ำในกรุงเทพฯ ที่สำนักการระบายน้ำ ระหว่างนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยทีม ศปภ. และ กทม.นั้น บรรยากาศค่อนข้างตึงเครียด โดยมีการถกเถียงกันถึงกรณีที่ กทม.ทำหนังสือถึง ศปภ.เพื่อให้ช่วยประสานไปยังกรมชลประทานในการขอเครื่องสูบน้ำ 27 เครื่อง ขณะที่กรมชลประทานระบุว่าไม่ได้รับหนังสือดังกล่าว จึงเกิดมีการถกเถียงกันขึ้น ซึ่งสุดท้ายนายกรัฐมนตรีต้องตัดบทให้ ศปภ.และ กทม.ทำงานอย่างบูรณาการและประสานงานกันมากกว่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดเช่นนี้ขึ้นอีก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ