นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วม บริเวณถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของกระทรวงการคลังนั้น เพื่อเป็นการวางแผนและป้องกันไม่ให้ระดับน้ำไหลทะลักเข้ามายังศูนย์ราชการฯ ได้ประสานกับ ศปภ. ขอเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำในส่วนที่น้ำเริ่มไหลทะลักเข้าศูนย์ราชการฯ และรักษาระดับน้ำในคลองอีด้วนเพื่อไม่ให้เอ่อล้นเข้าศูนย์ราชการฯ
พร้อมได้มอบหมายให้นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ และนายอดุลย์ ตั้งศัตยาภิรมย์ ที่ปรึกษาฯ เข้าตรวจสอบพื้นที่และวางแผนป้องกันเพื่อไม่ให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมศูนย์ราชการฯอันจะส่งผลกระทบถึงผู้ที่ประสบภัยซึ่งพักอาศัยในศูนย์ราชการฯ กว่า 3,000 คน
สถานการณ์ปัจจุบันระดับน้ำบนถนนแจ้งวัฒนะมีระดับสูงขึ้นมากทำให้มีน้ำเอ่อล้นเข้าบริเวณถนนหลัก (สาย2) ซึ่งหากระดับน้ำสูงขึ้นอีกจะส่งผลให้น้ำไหลทะลักเข้าอาคารบริเวณโซน B ซึ่งเป็นที่พักของผู้ประสบภัย และชั้น 1 ของอาคารอยู่ต่ำกว่าถนน เป็นที่ตั้งของแหล่งจ่ายไฟฟ้าและระบบต่างๆภายในอาคาร ในเบื้องต้นได้จัดทำผนังล้อมตัวอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็น เช่น ห้องเครื่องไฟฟ้า จำนวน 8 จุด โดยก่ออิฐฉาบปูน สูง 1.5 เมตรซึ่งจะสูงกว่าระดับถนนภายในโครงการ 30 ซม.โดยที่ผ่านมา กรมธนารักษ์ ร่วมกับธพส. และ บริษัทซิโน-ไทยฯ ได้ประชุมหารือร่วมกับ กองบัญชาการกองทัพไทย บริษัท กสท.โทรคมนาคม จำกัด และบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้ข้อสรุปที่จะดำเนินการป้องกันน้ำแบบบูรณาการร่วมกัน โดยกองทัพไทยจะส่งกระสอบทรายเปล่ามาให้ 30,000 ใบ ในส่วนของบริษัทชิโน-ไทยฯได้ดำเนินการเทหินคลุกที่ทางเข้าออกซอยแจ้งวัฒนะ 7 และ 9 พร้อมกันกระสอบทรายเพิ่มเติม และทาง ธพส. เป็นผู้จัดหาทรายประมาณ 20 รถพ่วงพร้อมกระสอบบรรจุ เพื่อมาทำแนวป้องกันที่ถนนสายหลัก 2B และถนนสาย 3 บริเวณฟุตบาทข้างรั้วนอร์ธปาร์ค และยังได้รับถุงทรายจาก ศปภ. จำนวน 20,000 ถุง เพื่อนำมาสร้างแนวป้องกันรอบบริเวณศูนย์ราชการฯ อีกด้วย รมช.คลัง กล่าวว่า เราพยายามป้องกันทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้น้ำจากถนนแจ้งวัฒนะและคลองอีด้วนไหลเข้าสู่ศูนย์ราชการฯ เพื่อให้ผู้ที่อาศัยมีความสบายใจและมั่นใจว่าจะอาศัยอยู่ได้จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ