น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเดินทางไปเยี่ยมชมมาตรการป้องกันน้ำท่วมคลองประปา ระบบการผลิตและควบคุมคุณภาพน้ำประปาของการประปานครหลวง(กปน.) ว่า หลังฟังรายงานจากผู้บริหาร กปน.แล้วทราบว่าน้ำประปาสามารถนำไปบริโภคได้ แต่เพื่อความสบายใจของผู้บริโภคอาจมีการต้มหรือกรองก่อนอีกครั้ง โดยน้ำที่ส่งจากโรงผลิตน้ำของ กปน.ไม่มีปัญหาหรือมีสารที่เป็นอันตรายเจือปน แต่ในกระบวนการพักน้ำของผู้บริโภคอาจส่งผลให้น้ำประปาที่นำไปบริโภคนั้นมีปัญหาได้
ทั้งนี้ กปน.มีโรงงานผลิตน้ำ 4 แห่ง คือ บางเขน สามเสน ธนบุรี และมหาสวัสดิ์ โดยระบบจ่ายน้ำในสถานีสูบจ่ายน้ำทุกแห่ง และสถานีไฟฟ้าย่อย ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการผลิตน้ำยังมีความมั่นคงแข็งแรง และไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตและจ่ายน้ำประปา
โดยขณะนี้ระบบการผลิตน้ำของ กปน.ได้รับการตรวจสอบและยืนยันจากหลายหน่วยงานว่ามีระบบการจัดการที่ดี แม้จะอยู่ในภาวะวิกฤติก็ยังสามารถควบคุมคุณภาพน้ำได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้กำชับให้ผู้บริหาร กปน.ตรวจสอบคุณภาพน้ำอย่างสม่ำเสมอเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ส่วนแผนการป้องกันแนวคลองประปาในอนาคตได้สั่งการให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ไปดำเนินการก่อสร้างคันกั้นน้ำถาวรเพื่อป้องกันอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีประชาชนย่านดอนเมืองประท้วงการทำคันกั้นน้ำด้วยกระสอบทรายขนาดยักษ์(บิ๊กแบ็ก) ที่ส่งผลให้น้ำท่วมสูงนั้น เป็นเรื่องที่ต้องคุยกันเพื่อหาทางออก ส่วนตัวเห็นใจประชาชนที่ประสบปัญหา และเห็นว่าขณะนี้มีการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมด้วยการชะลอน้ำจึงต้องมีการเร่งระบายให้น้ำเข้าสู่ระบบระบายน้ำของ กทม.โดยเร็ว เนื่องจาก กทม. มีระบบระบายขนาดใหญ่ และมีประสิทธิภาพ แต่หากกันน้ำไว้โดยไม่เร่งระบายอาจส่งผลให้น้ำเอ่อทะลัก และมีปัญหาในอนาคตได้
สำหรับกรณีที่รองผู้ว่าราชการ กทม.ให้ข้อมูลว่า แนวของบิ๊กแบ๊กยังสร้างไม่เสร็จนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำบิ๊กแบ็กมีความยาวถึง 27 กิโลเมตร แต่จะให้ป้องกันได้ 100% เป็นไปไม่ได้ ทั้งนี้หากบริเวณไหนเป็นช่องว่างต้องให้ทาง กทม. เป็นผู้ชี้จุด หรือให้ทางคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ