นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ยืนยันว่า จะไม่ให้มีการรือแนวคันกระสอบทรายยักษ์(บิ๊กแบ็ค)ไปมากกว่านี้ ทั้งนี้จะต้องให้กรุงเทพมหานคร(กทม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเจรจาทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ดอนเมือง โดยยอมรับว่าต้องมีการเยียวยาให้แก่ประชาชนในพื้นที่ที่อยู่ด้านนอกแนวคันบิ๊กแบ็คมากกว่านี้ ขณะเดียวกันเชื่อว่านายการุณ โหสกุล ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไม่ได้เป็นผู้นำชาวบ้านไปรื้อบิ๊กแบ็คเมื่อวานนี้
"ก็คงจะทำ(รื้อบิ๊กแบ็ค)ได้แค่นั้น ทำมากกว่านั้นไม่ได้ ต้องมีการเจรจากับประชาชน คาดว่าจะสำเร็จ ซึ่งอาจจะมีการกั้นเหมือนเดิม หรือเปิดไว้เท่ากับที่ปัจจุบันเปิดอยู่" นายยงยุทธ กล่าว
รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีปัญหาการประสานงานกับกทม. และหลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้โทรศัพท์มาพูดคุยเมื่อคืนนี้ ตนจึงได้โทรไปชี้แจงกับผู้ว่าฯ กทม.เพื่อให้ไปเป็นตัวแทนเจรจากับประชาชน แต่ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นการโยนความรับผิดชอบให้ กทม. แต่เป็นการร่วมกันรับผิดชอบระหว่างรัฐบาลกับ กทม.
สำหรับการจ่ายเงินชดเชยให้แก่ประชาชนนั้น นายยงยุทธ กล่าวว่า ต้องการให้ กทม.เร่งสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนที่ถูกน้ำท่วม โดยให้ผู้อำนวยการเขตทุกเขตรวบรวมรายละเอียดทั้งหมด ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมงบประมาณไว้แล้ว 3,000 ล้านบาท ครอบคลุมประชาชนในเขตกรุงเทพฯ ราว 6 แสนคน และพร้อมจะจ่ายเงินช่วยเหลือได้ในสัปดาห์หน้า
นายยงยุทธ กล่าวด้วยว่า แม้ขณะนี้กทม.ยังไม่มีการร้องขอเงินสนับสนุนจากรัฐบาล แต่รัฐบาลพร้อมจะสนับสนุนเงินทดรองจ่ายฉุกเฉินให้แก่กรุงเทพฯ 50 ล้านบาท ได้ภายในสัปดาห์นี้ แม้กรุงเทพฯ จะเป็นเขตปกครองพิเศษไม่ได้ขึ้นตรงกับกระทรวงมหาดไทยเหมือนเช่นจังหวัดอื่นๆ ก็ตาม ซึ่แต่รัฐบาลก็พร้อมที่จะให้การช่วยเหลือ โดยพร้อมจะจ่ายเงินให้ได้ภายในสัปดาห์นี้
ส่วนปัญหาทุจริตจัดซื้อถุงยังชีพนั้น กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) พร้อมจะดำเนินการส่งเรื่องนี้ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)รับไปพิจารณาตรวจสอบ ซึ่งหากตรวจสอบพบว่ามีผู้กระทำผิดจริง ก็จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ไปดำเนินการต่อไป