ผู้แทนประชาชนผู้อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา แสดงความกังวลและเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการปัญหาขยะอุตสาหกรรมที่แพร่กระจายออกมานอกนิคมอุตสาหกรรมในช่วงที่เกิดปัญหาน้ำท่วมสูง เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากน้ำที่ท่วมสูงและแผ่กระจายไปโดยรอบนิคมอุตสาหกรรมทำให้น้ำเสียที่อยู่ในบ่อบำบัดน้ำเสียของโรงงานได้ไหลปะปนกับน้ำท่วม เช่นเดียวกับกากอุตสาหกรรมหลายประเภทที่สามารถกระจายไปกับน้ำได้
ที่ผ่านมานิคมอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัยทั้ง 7 แห่ง ยังไม่มีหน่วยงานใดออกมาพูดถึงการจัดการขยะอุตสาหกรรมอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งที่เป็นปัญหาสำคัญต่อชีวิตประชาชนไม่น้อยไปกว่าการเร่งกอบกู้โรงงานต่างๆ ในนิคมอุตสาหกรรม เนื่องจากขยะอุตสาหกรรมเหล่านี้มีเป็นจำนวนมาก และบางส่วนได้แพร่กระจายออกไปนอกนิคมอุตสาหกรรม การจัดการกับขยะเหล่านี้จึงน่าจะเป็นกระบวนการเดียวกับการจัดการขยะของโรงงานอุตสาหกรรม ไม่ใช่จัดการแบบขยะชุมชน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนหลังน้ำลด ซึ่งที่ผ่านมาการออกมาพูดถึงการจัดการขยะของหลายหน่วยงานมักจะหมายถึงขยะชุมชนที่กระจายไปทั่วพื้นที่น้ำท่วม และหลายฝ่ายมองว่าเป็นวิกฤติที่สำคัญไม่ต่างจากปัญหาอุทกภัย
ก่อนหน้านี้นายพงษ์เทพ จารุพรพันธ์ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวยอมรับต่อที่ประชุม คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ในวาระพิจารณาติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหามลพิษ จากขยะมูลฝอย ขยะติดเชื้อ สารเคมี และสารปนเปื้อนที่รั่วไหลจากโรงพยาบาล, โรงงาน และนิคมอุตสาหกรรมพื้นที่น้ำท่วม ว่า สารเคมีอันตรายที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะรั่วไหลออกมาจากโรงงาน เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบแล้วพบว่าโรงงานที่ไปตรวจได้ย้าย และ เก็บสารเคมีอัตรายไว้ในที่ปลอดภัยจากน้ำท่วมแล้ว แต่ยังมีสิ่งที่กังวล คือ กากอุตสาหกรรม หรือ ของเสียอันตรายที่บางโรงงานอาจจะปล่อยออกมาในระหว่างที่ทำความสะอาดโรงงาน หรือ ช่วงที่สูบน้ำออกจากพื้นที่โรงงานได้