ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยผลการหารือระหว่างนายจุมพล สำเภาพล และนายสมภพ ระงับทุกข์ รองปลัดกรุงเทพมหานครและตัวแทนประชาชนดอนเมือง ได้ผลสรุป 3 ข้อเกี่ยวกับการจัดการแนวคันกั้นน้ำบริเวณดอนเมือง(big bag)เพื่อนำเข้าที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ในเวลา 16.00 น.วันนี้
ข้อสรุปทั้ง 3 ข้อ มีทางเลือกดังนี้ 1.หากการรื้อ big bag ออกไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่กทม.ประชาชนดอนเมืองขอให้เปิดอย่างนี้ต่อไป 2.หากเปิดแล้วส่งผลกระทบต่อกทม.และพท.ชั้นใน ประชาชนพร้อมจะให้ปิดคัน big bag แต่ขอให้เป็นลักษณะฝายน้ำล้นเพื่อให้น้ำได้ระบายและไม่เกิดภาวะน้ำเน่า
และ 3.หากยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าคันกั้นจะสร้างปัญหาหรือไม่ ให้มีการตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างสำนักการระบายน้ำและตัวแทนประชาชน
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการ กทม.เห็นว่าข้อ 2 จะเป็นทางที่ดีที่สุด เพื่อให้น้ำเคลื่อนไหวแบบชะลอตัว และไม่เน่าเสีย แต่จำเป็นต้องดูตามสถานการณ์ต่อไป
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ประชาชนดอนเมืองไม่ปฏิเสธบิ๊กแบ็ค และพร้อมเสียสละเพื่อคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ แต่ที่ผ่านมาน้ำท่วมขังมากและไม่มีการระบาย ทำให้น้ำเน่าเสีย อีกทั้งหลังจากเปิดคันกั้นบิ๊กแบ็คแล้ว ทำให้ระดับน้ำพื้นที่หลังคันกั้นลดลงจาก 23 ซม. เหลือ 15 ซม. ดังนั้นจึงต้องการที่จะระบายความทุกข์ลงบ้าง
อย่างไรก็ตาม ปัญหาทุกอย่างจำเป็นต้องพูดคุยกันให้เข้าใจกันบนพื้นฐานของเหตุและผล และไม่ควรทำสิ่งใดโดยพลการ ในส่วนของการเยียวยานั้น กทม.จะดำเนินการตามนโยบายของ ศปภ. อีกทั้งกทม.จะให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมประชาชนที่ได้รับผลกระทบในด้านต่างๆ ทั้งบริการหน่วยแพทย์ การให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ รวมถึงนำเจ้าหน้าที่ไปซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ และสาธารณูปโภค โดยก่อนหน้านี้ได้เริ่มนำร่องในพื้นที่เขตสายไหมไปแล้ว
ส่วนกรณีปัญหาชาวบ้านย่านพระราม 2 เรียกร้องให้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำภายใน 18.00 น. หากไม่ได้รับการสนองตอบตามคำเรียกร้องจะปิดถนนนั้น เห็นว่าปัญหาสถานการณ์น้ำพระราม 2 แก้ด้วยเครื่องสูบน้ำไม่ได้ เพราะไม่สามารถสูบน้ำจากที่ต่ำขึ้นสู่ที่สูงได้ ซึ่งเรื่องนี้ควรจะพูดคุยเจรจามากกว่ากดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ ดังนั้น วอนประชาชนอย่ารื้อคันกั้นน้ำหรือประท้วง