น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะพยายามไม่ให้สถานการณ์น้ำท่วมต้องยืดเยื้อไปจนข้ามปี เพราะเห็นว่าปีใหม่ควรเป็นช่วงที่ประชาชนมีความสุข
"ถ้าถามในส่วนตัวแล้ว เราก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น(น้ำท่วมที่ยืดเยื้อข้ามปี) อยากให้ปีใหม่ประชาชนมีแต่ความสุข" นายกรัฐมนตรี ระบุ
นายกรัฐมนตรี เชื่อว่าสถานการณ์น้ำขณะนี้ผ่านพ้นช่วงวิกฤติไปแล้ว เนื่องจากระดับน้ำในทะเลที่หนุนสูงสุดไม่ได้ส่งผลกระทบเพิ่มเติม แต่ยังเป็นห่วงประชาชนในฝั่งตะวันตกที่ยังเกิดปัญหาแนวพนังกั้นน้ำบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยามีรอยรั่ว โดยจะพยายามเร่งซ่อมแซมให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 วันนี้ แต่ยอมรับว่าในฝั่งตะวันตกอาจระบายน้ำค่อนข้างยากลำบาก โดยจะได้ประสานไปยังผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในการเร่งสูบน้ำและระบายน้ำให้ไหลลงสู่ทะเลโดยเร็ว
ส่วนปัญหาที่ชาวบ้านย่านดอนเมืองรื้อแนวคันกระสอบทรายยักษ์(บิ๊กแบ็ค)นั้น นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ไม่เคยมีคำสั่งอนุมัติให้รื้อบิ๊กแบ็ค แต่ทั้งนี้ก็เข้าใจว่าประชาชนที่อยู่เหนือแนวคันบิ๊กแบ็คอาจจะรู้สึกว่าระดับน้ำสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลจากมวลน้ำทางเหนือที่ยังไหลลงมาเรื่อยๆ แต่ในความเป็นจริงโดยภาพรวมแล้วระดับน้ำไม่ได้เพิ่มขึ้น เพราะน้ำได้เริ่มไหลลงสู่คลองต่างๆ ไปแล้ว
ในส่วนปัญหาการทุจริตถุงยังชีพ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบไปแล้ว โดยได้มอบให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รับไปตรวจสอบ หากพบว่ามีการทุจริตก็พร้อมจะมีการลงโทษอย่างเต็มที่ พร้อมทั้ง ได้มีการเปลี่ยนชุดคณะกรรมการที่ดูแลเรื่องถุงยังชีพเพื่อให้เกิดความโปร่งใสไปแล้ว
อีกทั้งได้ปรับเปลี่ยนวิธีการมอบถุงยังชีพ โดยมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนำวงเงินที่รัฐบาลมอบให้ในวงเงินฉุกเฉิน 50 ล้านบาทไปจัดหาถุงยังชีพเพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนเอง และย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องจัดซื้ออย่าวถูกต้อง โปร่งใส และเป็นไปตามระเบียบราชการ รวมถึง กทม.เพื่อให้การดูแลไม่เกิดการแบ่งกลุ่มหรือแบ่งข้าง จึงได้อนุมัติวงเงิน 50 ล้านบาทเช่นเดียวกันในการไปเบิกจ่ายซื้อถุงยังชีพเพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่กทม.และหากไม่พอสามารถขอวงเงินเพิ่มเติมได้
นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ปล่อยให้ทางกทม.รับผิดชอบเรื่องถุงยังชีพเพียงฝ่ายเดียว แต่จะมีการจัดหาถุงยังชีพประกอบกันไปด้วย
"อยากให้ทาง กทม.ได้เร่งสำรวจบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อรัฐบาลจะได้มีการจ่ายวงเงิน 5,000 บาท ซึ่งขณะนี้มีอยู่แล้วประมาณ 3 พันกว่าล้านบาท ส่วนจะมีการอนุมัติวงเงินเพิ่มเติมนอกเหนือจาก 5,000 บาทหรือไม่นั้น ได้สั่งการให้นายยงยุทธ ไปหารือร่วมกับผู้ว่าฯ ในการเร่งเยียวยาให้กับประชาชน ซึ่งโดยส่วนส่วนตัวอยากให้การช่วยเหลือเยียวยาดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว และตรงตามความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาตั้งตัวได้เร็วขึ้น" นายกรัฐมนตรี กล่าว