ศูนย์ปฎิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) แจ้งว่า นิคมอุตสาหกรรมบางชัน ซึ่งตั้งอยู่ในเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากการเปิดบิ๊กแบ็ก แนวป้องกันน้ำของชาวลำลูกกา รวมถึงการเปิดประตูระบายน้ำพระยาสุเรนทร์ให้สูงขึ้นอีก โดยต้องเฝ้าระวังน้ำที่จะมาจากคลองแสนแสบ คลองสามวา และคลองพระยาสุเรนทร์
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของนิคมฯ บางชันตอนนี้มีแนวโน้มดีขึ้น ระดับน้ำของนิคมโดยเฉพาะประตูน้ำคลองแสนแสบตอนบางชันลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ระดับน้ำต่ำกว่า 1 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง จนทำให้การนิคมอุตสาหกรรมยกเลิกประกาศเขตฉุกเฉินระดับที่ 1 ตั้งแต่ 16 พฤศจิกายน
ส่วนโรงงานในนิคมฯ ยังเดินเครื่องผลิตร้อยละ 97 มีเพียงโรงงานญี่ปุ่นบางแห่งเท่านั้นที่ต้องรอเจ้าหน้าที่ระดับสูงมาตรวจสอบความปลอดภัยก่อน
ปัจจุบันนิคมฯ บางชันมีการบริหารจัดการน้ำที่ดีขึ้นมาก ล่าสุดได้นำเรือผลักดันน้ำจากกองทัพเรือมาติดตั้งที่คลองบางชัน รวมถึงเครื่องผลักดันน้ำที่ประตูระบายน้ำคลองแสนแสบตอนบางชัน ส่วนบริเวณถนนเสรีไทย ด้านหน้าบริษัทในเครือสหยูเนี่ยน เจ้าหน้าที่ทหารยังคงสูบน้ำออกอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการนิคมฯ ยังสำรวจความแข็งแรงของแนวป้องกันน้ำเพื่อความไม่ประมาท อีกทั้งยังดูแลประชาชนรอบนิคมฯ อีกด้วย โดยในวันที่ 20 และ 23 พฤศจิกายนนี้ ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงอุตสาหกรรมและ กนอ.จะมอบถุงยังชีพประมาณ 3,500 ถุง ให้ประชาชนที่อยู่ด้านนอกแนวป้องกันน้ำของนิคมฯ บางชัน