นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรคและกรมอนามัยร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบและเฝ้าระวังคุณภาพน้ำก่อนสูบออกนอกนิคมอุตสาหกรรม และเฝ้าระวังประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพของชุมชนรอบๆ เพื่อสร้างความปลอดภัยประชาชนสูงสุด
วันนี้รัฐบาลได้จัดกิจกรรม Big Cleaning Day "รวมพลังคืนพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน" ตามแผนกู้และฟื้นฟูนิคมอุตสาหกรรมใน จ.พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี ที่ถูกน้ำท่วมรวม 7 แห่ง ได้แก่ สหรัตนคร โรจนะ บ้านหว้า(ไฮเทค) บางปะอิน แฟตตอรี่แลนด์ นวนคร และบางกระดีให้กลับมาดำเนินการได้เหมือนเดิมอย่างเร่งด่วน
โดยเป้าหมายหลักคือตรวจการปนเปื้อนเชื้อโรคและสารเคมี หากผลตรวจพบว่ามีการปนเปื้อนสารเคมีหรือโลหะหนักเกินมาตรฐานเป็นอันตรายจะต้องหยุดสูบน้ำออกทันที และทำการบำบัดน้ำให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานจนไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพก่อน โดยได้เริ่มดำเนินการในนิคมอุตสาหกรรม 4 แห่งคือ โรจนะ ไฮเทค บางปะอิน และนวนคร ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย.เป็นต้นมา ซึ่งใช้งบดำเนินการเกือบ 4 ล้านบาท
รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ช่วงที่น้ำท่วมขังในระยะแรก กระทรวงฯ ได้สุ่มตรวจน้ำในนิคมอุตสาหกรรม 2 แห่งคือ ไฮเทคและนวนคร ผลการตรวจคุณภาพน้ำที่นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ที่เก็บตัวอย่างน้ำ 6 จุด เมื่อวันที่ 9 พ.ย.54 ผลการตรวจพบส่วนใหญ่ไม่เกินค่ามาตรฐานของแหล่งน้ำผิวดินประเภทที่ 4 ยกเว้นทองแดง พบประมาณระหว่าง 0.112 และ 0.155 มิลลิกรัมต่อลิตร แต่ไม่เกินค่ามาตรฐานน้ำทิ้งอุตสาหกรรมที่กำหนดอยู่ที่ 2 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งเป็นน้ำเพื่อใช้ในการอุตสาหกรรม ไม่ควรนำมาใช้อุปโภคบริโภค
สำหรับผลการตรวจที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร ได้เก็บตัวอย่างน้ำที่บริเวณหน้าสถานีจ่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และที่โรงงานอุตสาหกรรม 4 จุด ได้แก่ บริเวณใกล้โรงงานกิฟฟารีน 2 จุด ใกล้โรงงานฟูจิกูระ และเนสท์เล่ เมื่อวันที่ 20 ต.ค.54 ผลพบปนเปื้อนแบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์มในระดับสูง แสดงว่าเป็นน้ำเน่าเสีย มีการปนเปื้อนขยะอินทรีย์ และสิ่งปฎิกูลในปริมาณสูง ซึ่งพบได้ทั่วไป ส่วนการปนเปื้อนสารเคมีพบว่าสูงกว่ามาตรฐานน้ำผิวดินประเภทที่ 4 เล็กน้อย โดยตรวจพบสารจำพวกฟีนอลและโลหะหนักบางชนิด เช่นทองแดง ตะกั่ว และแคดเมียม แต่ปริมาณยังต่ำกว่าค่ามาตรฐานน้ำทิ้งของโรงงานอุตสาหกรรม และได้เก็บตัวอย่างตรวจซ้ำ เมื่อ 9 พ.ย.54 จะทราบผลในสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตามหากผลการตรวจพบว่าคุณภาพน้ำในชุมชนมีค่าผิดปกติ กระทรวงฯ จะทำการเฝ้าระวังสุขภาพประชาชนที่พักอาศัยบริเวณชุมชนใกล้เคียง เพื่อตรวจคัดกรองการสัมผัสสารเคมีที่ปนเปื้อนในน้ำ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบปัญหาดังกล่าว