นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เลขานุการคณะกรรมการบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่สาธารณภัยร้ายแรง ศูนย์ปฎิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.)กล่าวถึงภาพรวมการแก้ปัญหาน้ำท่วมว่า ขณะนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงจะมีปัญหาเฉพาะในระดับพื้นที่ และมั่นใจว่าอีกไม่นานภารกิจเร่งระบายน้ำของคณะทำงานชุดนี้จะเสร็จสิ้น เพราะกำลังน้ำเข้าสู่ในระบบคลองหมดแล้ว
สถานการณ์น้ำใน กทม.นั้น เชื่อว่าในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ปัญหาน้ำท่วมน่าจะใกล้จบแล้ว เพราะปัญหาน้ำท่วมผ่านมา 2 เดือนกว่าแล้ว ปัญหาขณะนี้น่าจะเหลืออีกเพียง 10 เปอร์เซ็นต์สุดท้ายเท่านั้น
ส่วนการแก้ปัญหาตามที่กลุ่มชาวบ้านดอนเมืองที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังเป็นเวลานานนั้น นายอานนท์ กล่าวว่า สำหรับข้อเรียกร้องของชาวบ้านนั้น ศปภ.สามารถดำเนินการให้ได้ โดยจะเริ่มวางแผนโดยนำเจ้าหน้าที่ลงไปปฏิบัติงานแก้ไขในจุดที่ได้รับการร้องเรียนทันที
รวมถึงข้อเรียกร้องขอให้รื้อแนวบิ๊กแบ๊กเดิมบริเวณถนนวิภาวดีออกแล้วเร่งสูบน้ำออกเพื่อให้รถสัญจรไปมาได้นั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำแนวบิ๊กแบ๊กขึ้นใหม่แล้วที่บริเวณใต้สะพานรังสิต ดังนั้น คงรื้อออกได้แต่คงต้องดูในจังหวะเวลาที่เหมาะสม เพราะทุกอย่างต้องอยู่บนหลักการมีขั้นตอน หากเจ้าหน้าที่สามารถสูบน้ำที่ขังข้างในบิ๊กแบ๊กเดิมให้ได้ก่อน แล้วค่อยทยอยแก้ไขเป็นจุดๆ ไป ซึ่งการจะให้ไปรื้อออกเลยทันทีคงไม่ได้ และไม่ใช่เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง
“ข้อเรียกร้องส่วนใหญ่สอดคล้องกับการทำงานของ ศปภ.อยู่แล้ว และหลายเรื่องดำเนินการไปแล้ว เพียงแต่ยังไม่เห็นผล เช่น การวางแนวบิ๊กแบ๊กกั้นคลองรังสิตที่บริเวณสะพานแก้ว หรือการเร่งระบายน้ำที่คลองเปรมประชากร แต่บางครั้งการดำเนินการอาจช้าไปบ้าง เพราะติดขัดปัญหาเรื่องเทคนิค"นายอานนท์กล่าว
ด้านการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังที่ อ.บางบัวทอง และ อ.บางใหญ่ นั้น ศปภ.เตรียมแก้ปัญหาอยู่แล้ว แต่วิธีการไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน เพราะต้องดูลักษณะการท่วมขังของน้ำในพื้นที่ว่าเป็นอย่างไร และเชื่อว่าพื้นที่ฝั่งตะวันตกของกทม.คงไม่ท่วมนานอีกเป็นเดือน อย่างมากน่าจะอีก 2-3 สัปดาห์เท่านั้น และเชื่อว่าแค่สัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม พื้นที่ย่านเศรษฐกิจ และถนนสายหลักน่าจะฟื้นฟูกลับมาได้