ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากกทม.เปิดประตูระบายน้ำ 3 แห่ง ได้แก่ ประตูระบายน้ำคลองขุนศรีบุรีรักษ์, คลองควาย และคลองซอย เป็น 1 เมตร ทำให้ระดับน้ำด้านในประตูระบายน้ำและพื้นที่เขตทวีวัฒนาสูงขึ้น 2 ซม. อย่างไรก็ตาม กทม.จะยังไม่ด่วนสรุปต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะประเมินผลกระทบอย่างต่อเนื่องภายใน 48 ชั่วโมงนับแต่มีการเปิดประตูระบายน้ำ
ส่วนการรื้อกระสอบทรายยักษ์(บิ๊กแบ๊ก) ที่แยกคปอ.ดอนเมืองนั้น ยังไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่โดยรวม อย่างไรก็ตาม กทม.จะเร่งสูบน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ตอนเหนือ เขตดอนเมือง, หลักสี่, สายไหม, คลองหกวาสายล่างให้เร็วที่สุด
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวด้วยว่า ในช่วงบ่ายวันนี้จะเดินทางเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รมว.มหาดไทย พร้อมทั้งนำข้อเสนอในการบริหารจัดการน้ำต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง
สำหรับสถานการณ์น้ำโดยทั่วไปดีขึ้นตามลำดับ โดยในวันนี้ระดับน้ำทะเลหนุนไปแล้วเมื่อเวลา 06.45 น. ที่ระดับ 2.17 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และระดับน้ำที่ อ.บางไทร 3.36 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ระดับน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ 2.98 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ส่วนระดับน้ำโดยภาพรวมทั้งบริเวณดอนเมือง คลองหกวาสายล่างที่ประตูระบายน้ำคลองสอง และคลองสายหลักมีแนวโน้มลดลง ประมาณ 1-3 ซม. ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีว่าสถานการณ์กำลังจะคลี่คลาย ส่วนคลองมหาสวัสดิ์ระดับน้ำทรงตัว
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงการจัดการขยะในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า โดยรวมสามารถจัดเก็บได้ 9,544 ตัน เก็บได้สูงกว่าในสภาวะปกติกว่า 1,000 ตัน ส่วน 25 เขตน้ำท่วมขังจัดเก็บขยะได้มากขึ้นเป็น 4,540 ตัน จากวานนี้ 4,313 ตัน ซึ่งในเขตดอนเมือง หนองแขม และบางแค จัดเก็บได้ประมาณร้อยละ 60 เนื่องจากระดับน้ำในพื้นที่ยังท่วมสูง คาดว่าในสัปดาห์จะจัดเก็บได้มากขึ้น พร้อมกันนี้ กทม.จะระดมเขตที่ไม่ใช่พื้นที่ประสบภัยเข้าไปช่วยจัดเก็บขยะในพื้นที่น้ำท่วมด้วย เพื่อไม่ให้มีขยะตกค้าง