นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขจะออกประกาศสถานการณ์ด้านสุขภาพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมของประเทศไทย ฉบับที่ 1 ภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อยืนยันว่าภายหลังสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ไทยไม่มีโรคระบาด และระบบการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคของไทยมีความเข้มแข็ง ร่วมกับองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย และศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐอเมริกาด้านสาธารณสุข
และหลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขทำการฟื้นฟูด้านสุขภาพ 5 ด้าน ได้แก่ ระบบบริการสาธารณสุข การป้องกันควบคุมโรค สุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม อาหารปลอดภัย และสุขภาพจิต ในช่วง 45 วันหลังน้ำลดทุกพื้นที่เสร็จสิ้น จะจัดประชุมเพื่อออกประกาศฉบับที่ 2 โดยเชิญสถาบันการแพทย์ของทบวงมหาวิทยาลัย และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหารซึ่งมีความร่วมมือกับต่างชาติด้วย ตอกย้ำความมั่นใจในความปลอดภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข เป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ในระดับนานาชาติ ให้หน่วยงานอื่นนำไปใช้ประโยชน์ และจะเผยแพร่ผ่านสถานทูตไทยในต่างประเทศ 94 แห่งทั่วโลก ให้ต่างชาติได้รับทราบข้อเท็จจริงประกอบการตัดสินใจเดินทางมาประเทศไทยด้วยความมั่นใจ
นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวว่า ในวันนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เชิญผู้แทนหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ ร่วมปรึกษาหารือเรื่องมาตรการควบคุมป้องกันโรคหลังน้ำท่วม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่างชาติหลังประเทศไทยประสบปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยด้านสุขภาพและโรคระบาดหลังน้ำท่วม หลังจากที่หลายฝ่ายมีความกังวลว่าจะมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนและธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยในอนาคต
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในเรื่องการป้องกันควบคุมไม่ให้มีโรคระบาดหลังน้ำท่วมจนกระทั่งหลังน้ำลด และเร่งรัดให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัดที่ประสบภัยฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับคืนสู่ภาวะปกติ โดยเร็วที่สุดภายใน 45 วันหลังน้ำลดซึ่งมีทั้งหมด 4,600 ตำบลที่ถูกน้ำท่วม เพื่อให้ทุกแห่งปลอดภัย ไม่มีโรคระบาดตามมา
ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของกระทรวงสาธารณสุข ได้เน้นหนักเรื่องการเฝ้าระวัง ป้องกันโรคติดต่อที่อาจเกิดขึ้นหลังน้ำท่วมจำนวน 10 โรค เช่น โรคฉี่หนู อุจจาระร่วง ไข้เลือดออก เพื่อจับสัญญาณการระบาดของโรคได้อย่างรวดเร็ว ทั้งผู้ป่วยที่มารับบริการที่หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ โรงพยาบาล และศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยกว่า 500 แห่ง พบว่า ในช่วงน้ำท่วม 2 เดือนที่ผ่านมามีผู้ป่วยจากโรคดังกล่าวเกิดขึ้นประปราย เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาพบว่ายังอยู่ในเกณฑ์ปกติ และเป็นโรคที่พบในท้องถิ่นอยู่แล้ว
"กล่าวได้ว่ามาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตลอดมาจนถึงขณะนี้ได้ผลดี ข้อมูลมีความโปร่งใส เป็นที่ยอมรับและชื่นชมขององค์การอนามัยโลก และศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐอเมริกา ด้านสาธารณสุข ซึ่งมีความร่วมมือกับไทยมากว่า 30 ปี"ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าว