นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ในปี 55 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้จัดงบประมาณรวม 437 ล้านกว่าบาท ประกอบด้วย งบดูแลรักษาผู้ที่ป่วยแล้ว 400 ล้านบาท และงบเพื่อใช้ป้องกันหรือผู้ป่วยรายใหม่ลงให้เหลือน้อยที่สุดอีกประมาณ 37 ล้านบาท
ขณะนี้ปัญหาโรคเรื้อรังกำลังเป็นปัญหาสุขภาพอันดับหนึ่งของคนไทยอายุ 35 ปีขึ้นไป แนวโน้มการป่วยมีทิศทางเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ที่สำคัญ 2 โรคได้แก่ โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากพฤติกรรมและวิถีการดำเนินชีวิตที่เกี่ยวข้อง 3 เรื่องใหญ่ ได้แก่ กินอาหารไม่เหมาะสม ขาดการออกกำลังกาย และการเสพสิ่งเสพติดคือสุรา บุหรี่ เมื่อเป็นแล้วยังไม่มียารักษาหายขาด ไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่สามารถป้องกันและปรับเปลี่ยนได้
กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายบริหารจัดการ โดยเน้นระบบการดูแลรักษาผู้ที่ป่วยแล้วที่มีประสิทธิภาพ เพราะหากดูแลรักษาไม่ดีโรคจะก่อความรุนแรง ทำให้เกิดปัญหาอื่นตามมาอีกเช่น โรคหลอดเลือดสมองแตกหรือตีบ โรคหัวใจ ตาบอด พิการ ไตวายเรื้อรัง ขณะเดียวกันจะเน้นหนักการป้องกันไม่ให้เกิดการป่วยจาก 2 โรคนี้ด้วย
ทั้งนี้ จากการตรวจสุขภาพคนไทยอายุ 35 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ ล่าสุดในปี 53 พบผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ไม่ใช่เกิดจากกรรมพันธุ์และความดันโลหิตสูง รวมกันกว่า 4 ล้านคน และยังพบผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตสูงผิดปกติ เสี่ยงจะเป็นผู้ป่วยใหม่เพิ่มอีก 4 ล้านคน ผลการตรวจครั้งนี้ยังพบมีคนที่ป่วยทีเดียว 2 โรคพร้อมกันคือเป็นทั้งโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง 6 แสนกว่าคน
"เป็นเรื่องที่ต้องเร่งควบคุมป้องกันอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์สุขภาพดีวิถีชีวิตไทย พ.ศ.2555-2559 รณรงค์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของประชาชนไทย ให้ลดอาหารรสหวาน มัน เค็ม ส่งเสริมการบริโภคผัก ผลไม้ และเพิ่มการออกกำลังกาย รวมทั้งการตรวจคัดกรองประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่มีอายุเกิน 35 ปีขึ้นไปเพื่อค้นหาโรคความดันหิตสูงและเบาหวานทุกปี เพื่อให้การดูแลอย่างครอบคลุมและต่อเนื่อง" รมว.สาธารณสุข กล่าว