ก.เกษตรแนะรัฐกระตุ้นปริมาณบริโภคไข่ไก่ในประเทศ หวั่นล้นตลาดช่วงฤดูหนาว

นายนิวัติ สุธีมีชัยกุล รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้พบว่าไข่ไก่ที่ออกสู่ตลาดในประเทศเริ่มมีปริมาณมากขึ้น โดยมีผลผลิตทั้งประเทศเฉลี่ยวันละ 32 ล้านฟอง ด้วยกำลังการผลิตในปัจุบันทำให้คาดว่าภายในอีก 6-8 เดือนนับจากนี้ จำนวนแม่พันธุ์ไก่ไข่จะมีมากถึง 10-15 ล้านตัว และเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวจะทำให้ไข่ไก่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

ขณะที่ต้นทุนการผลิตของราคาไข่ไก่ภายในประเทศ เฉลี่ยอยู่ที่ฟองละ 2.60 บาท ขณะที่ราคาไข่ขายส่งอยู่ที่ฟองละ 2 บาท ทำให้ผู้ประกอบการและผู้เลี้ยงไข่ไก่ขาดทุน ฟองละ 0.60 บาท คิดเป็นการขาดทุนวันละประมาณ 19 ล้านบาท หรือขาดทุนเดือนละ 570 ล้านบาทของผลผลิตทั้งประเทศ

ดังนั้น ภาครัฐจึงจำเป็นต้องหามาตรการและแนวทางในการแก้ปัญหาไม่ให้ไข่ไก่ล้นตลาดทั้งในสถานการณ์ปัจจุบันที่ผู้ผลิตไข่ไก่เผชิญอยู่ และในระยะเวลาอีกไม่กี่เดือนที่จะมีไข่ไก่ล้นตลาด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่

นายนิวัติ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลมีนโยบายชะลอการส่งออกไข่ไก่ไปยังต่างประเทศ ซึ่งในปีที่ผ่านมาพบว่ามีการส่งออกไข่ไก่ในช่วงเดือน ม.ค.- ก.ย. 2554 จำนวน 55 ล้านฟอง คิดเป็นมูลค่า 170 ล้านบาท ลดลงถึงร้อยละ 52 ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันมีไข่ค้างสต๊อกประมาณวันละ 1 ล้านฟอง และคาดว่าจะเพิ่มเป็น วันละ 3 ล้านฟอง ในอีก 2 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ผลผลิตไข่ไก่ล้นตลาดและส่งผลให้ราคาไข่ไก่ตกต่ำตามมา หากยังไม่มีการระบายผลผลิตไปประเทศเพื่อนบ้าน แต่แนวทางดังกล่าวติดปัญหาเนื่องจากไทยได้ระงับการค้าไข่ไก่กับประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เพื่อนบ้านหันไปทำการค้ากับประเทศอื่นแล้ว ส่วนมาตรการการประกันหรือรับจำนำไข่ไก่ก็เป็นวิธีที่ค่อนข้างยุ่งยากและไม่เหมาะสมเนื่องจากไข่ไก่ไม่สามารถเก็บได้นาน

ทั้งนี้ รัฐบาลอาจใช้แนวทางการแก้ไขปัญหาแบบเดียวกับการจัดทำโครงการนมโรงเรียนเพื่อแก้ไขปัญหาไข่ไก่ล้นตลาด และรณรงค์การบริโภคไข่ไก่ภายในประเทศให้มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันพบว่าคนไทยมีการบริโภคไข่ไก่เพียง 140 ฟองต่อคนต่อปี จึงควรรณรงค์ให้คนไทยหันมาบริโภคไข่ไก่เพิ่มมากขึ้น เป็น 200 ฟองต่อคนต่อปี