นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวว่า กทม.และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) ได้ร่วมกันพิจารณาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท ตอนที่ 1 อ่อนนุช-แบริ่ง แล้วได้ข้อสรุปว่าจะจัดเก็บในอัตรา 15 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้ เป็นต้นไป
โดยส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท ตอนที่ 1 อ่อนนุช-แบริ่ง ประกอบด้วย 5 สถานี ได้แก่ บางจาก(E10) ปุณณวิถี(E11) อุดมสุข(E12) บางนา(E13) และ แบริ่ง(E14) ระยะทาง 5.25 กิโลเมตร ซึ่งจะจัดเก็บในอัตราค่าโดยสาร 15 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้ เป็นต้นไป ซึ่งที่ผ่านมาคณะผู้บริหาร กทม.ได้มีมติยกเว้นการจัดเก็บอัตราค่าโดยสารตั้งแต่วันที่เปิดให้บริการ คือ วันที่ 12 ส.ค.54 จนถึง 1 ม.ค.55 และต่อมาได้ขยายเวลายกเว้นการเก็บค่าโดยสารไปจนถึงสิ้นเดือน เม.ย.55 เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย
"เคที เห็นว่า โครงสร้างอัตราค่าโดยสารดังกล่าวเป็นอัตราที่มีความเหมาะสม สำหรับอัตราค่าโดยสารในเส้นทางสายหลักนั้นจะใช้อัตราค่าโดยสารเดิม ตามโครงสร้างของบริษัท บีทีเอส" นายธีระชน กล่าว
รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กทม.จะสามารถเปิดให้บริการส่วนต่อขยายสายสีลม(วงเวียนใหญ่-บางหว้า) ระยะทาง 5.3 กิโลเมตร ได้ในวันที่ 5 ธ.ค.55 โดยจะเปิดให้ใช้บริการใน 2 สถานีก่อน ได้แก่ สถานีโพธิ์นิมิตร(S9) สถานีรัชดา-ราชพฤกษ์(S10) ส่วนอีก 2 สถานี ได้แก่ สถานีวุฒากาศ (S11) และปลายทางสถานีบางหว้า(S12) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณจุดตัดถนนราชพฤกษ์กับถนนเพชรเกษม เขตภาษีเจริญ นั้นยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้พร้อมกัน เนื่องจากติดปัญหาการลงพื้นที่ก่อสร้างที่เกิดจากการซ้อนทับโครงสร้างสถานีระหว่างรถไฟฟ้าสายสีเขียว กับสายสีน้ำเงิน ของ รฟม.ที่อาจเป็นปัญหา ซึ่งในสัปดาห์นี้จะเชิญผู้บริหาร รฟม.มาหารือในเรื่องดังกล่าว
ส่วนอัตราการจัดเก็บค่าโดยสารในเส้นทางนี้ยังไม่ได้กำหนด ซึ่งคาดว่า การกำหนดอัตราค่าโดยสารใน 2 สถานีดังกล่าวต้องรอผู้บริหาร กทม.ชุดใหม่พิจารณาต่อไป เนื่องจากผู้บริหารชุดปัจจุบันที่มี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.จะหมดวาระในเดือน ม.ค.56