ม.อ.แนะเตรียมรับมือปรากฏการณ์ลานินญ่า คลื่นกัดเซาะชายฝั่งอ่าวไทยรุนแรงขึ้น

ข่าวทั่วไป Wednesday January 11, 2012 10:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศักดิ์อนันต์ ปลาทอง อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(ม.อ.) เปิดเผยว่า สภาพอากาศโลกในปีนี้ได้เข้าสู่ปรากฏการณ์ "ลานินญ่า" ส่งผลให้เกิดลมฝนและคลื่นค่อนข้างแรงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย ที่คลื่นลมบริเวณชายฝั่งทะเลภาคใต้ทวีความรุนแรงจนส่งผลให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งอ่าวไทย ตั้งแต่ จ.ชุมพร, นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี, ปัตตานี, สงขลา และนราธิวาส โดยบางพื้นที่มีการกัดเซาะชายฝั่งถึง 100-300 เมตรจากแนวเดิมที่เคยเป็นพื้นดิน ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายหาดได้รับความเสียหายจากปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง

นอกจากนี้ ปัจจัยจากสิ่งก่อสร้างของมนุษย์ที่ต้องการลดผลกระทบของการกัดเซาะคลื่น เช่น กำแพงหรือเขื่อนกันคลื่นยังเป็นปัญหาสำคัญ เพราะแม้ว่าในระยะสั้นจะสามารถป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งได้ แต่ระยะยาวแล้วสิ่งก่อสร้างเหล่านี้จะไปขัดขวางการเคลื่อนตัวของทราย เมื่อเกิดคลื่นลมแรงจะทำให้ทรายริมชายฝั่งถูกดูดลงไปในทะเลมากขึ้น ส่งผลให้เกิดปัญหากัดเซาะชายฝั่งเช่นเดียวกัน

"เมื่อ 20 ปีก่อน โลกเราเผชิญกับยุคโลกร้อน (Global Warming) แต่ปัจจุบันโลกของเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคของการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศของโลกที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น จนนำไปสู่ Global change ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงของโลกในทุกมิติ ทำให้การพยากรณ์อากาศจะทำนายล่วงหน้าได้ไม่กี่วัน ดังนั้นประชาชนต้องระมัดระวัง โดยเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสภาวะแวดล้อมของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินจากกรณีปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง" นายศักดิ์อนันต์ กล่าว

พร้อมระบุว่า ภาครัฐควรมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลรายละเอียดของสภาพอากาศและสภาวะแวดล้อมของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อใช้แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงให้ได้รับทราบข้อมูลเพื่อเตรียมความพร้อมในการดูแลตนเอง

นอกจากนี้ ต้องเร่งศึกษาสภาพภูมิประเทศของแต่ละพื้นที่เพื่อออกกฎหมายกำหนดให้ประชาชนที่ก่อสร้างที่อยู่อาศัยริมชายฝั่งต้องมีระยะห่างที่เหมาะสม รวมถึงส่งเสริมการปลูกแนวพันธุ์ไม้ป่าชายฝั่งเพื่อลดแรงของคลื่นลม และแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทางทะเลให้ลดลง ซึ่งจะเป็นการลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ