นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมชลประทานเตรียมเสนอแนวคิดเบื้องต้นในการป้องกันปัญหาน้ำท่วม จ.เชียงใหม่ โดยการสร้างแก้มลิงที่เป็นบ่อลูกรังในอำเภอแม่แต่ง เพื่อเชื่อมโยงบ่อลูกรังที่มีอยู่แล้วให้สามารถเก็บกักน้ำได้ 60-70 ล้านลูกบาศ์กเมตร เพื่อเอามาเก็บกักไว้ใช้ประโยชน์ทางการเกษตร ซึ่งจะเป็นการตัดยอดน้ำจากแม่น้ำปิงได้ถึง 400 ลูกบาศก์เมตร
อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวยังเป็นเพียงกรอบแนวคิดที่น่าจะมีความเป็นไปได้ ซึ่งกรมชลประทานยังต้องมีการศึกษาในรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป
เมื่อปีที่ผ่านมาที่เกิดพายุไหหม่า และเนสาดส่งผลให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้ปริมาณน้ำไหลผ่านแม่น้ำปิงที่สะพานนวรัตน์สูงถึง 800 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที จากปริมาณน้ำปกติที่รับน้ำได้เพียง 405 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเท่านั้นเอง จึงส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งสาเหตุสำคัญเกิดจากปริมาณฝนที่ตกติดต่อกันมามาก ทำให้การบริหารจัดการน้ำค่อนข้างมีอุปสรรค โดยกรมชลประทานสามารถควบคุมปริมาณน้ำท่าได้ในลุ่มน้ำปิงตอนบนในส่วนของลุ่มน้ำเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลเท่านั้นที่สามารถบรรเทาปัญหาอุทกภัยได้เพียง 19% เท่านั้น แต่ในส่วนของลุ่มน้ำของเขื่อนแม่กวงอุดมธารานั้นจะลงไปบรรจบกับแม่น้ำปิงที่ตอนล่างชองจังหวัดเชียงใหม่แล้ว
"แม้ว่าในปีนี้จะไม่สามารถให้ความมั่นใจได้ว่าน้ำจะไม่เข้าท่วมพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากไม่สามารถคาดการปริมาณฝนล่วงหน้าได้ แต่อย่างไรก็ตามกรมชลประทานจะมีการติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด ซึ่งปัญหาอุปสรรคที่สำคัญจากปัญหาอุทกภัยที่เชียงใหม่ที่ผ่านมา เนื่องจากทางตอนเหนือ จ.เชียงใหม่ ยังไม่มีแหล่งเก็บกักต้นแม่น้ำแม่แตงและเชียงดาว ซึ่งกรมชลประทานได้วางแผนไว้แล้วแต่ไม่สามารถทำแหล่งเก็บกักได้ แม้จะมีโครงการที่ได้รับอนุมัติจากครม.ในรัฐบาลที่ผ่านมาให้มีการผันน้ำจากแม่แตงมาเก็บไว้ที่แม่งัดแล้วผันน้ำต่อไปยังแม่กวงที่สามารถตัดยอดน้ำได้ปีละ 70 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่ช่วยตัดยอดน้ำไม่ให้เข้าตัวเมืองเชียงใหม่ได้ในระดับหนึ่งก็ตาม"นายธีระ กล่าว
สำหรับการติดตามความเสียหายระบบชลประทานของเขื่อนแม่งัดฯ ซึ่งกรมชลประทานจะเร่งซ่อมแซมอาคารป้องกันตลิ่งในลำน้ำแม่งัด 2 จุด ในฝั่งซ้ายและขวาของลำน้ำแม่งัดที่จะใช้งบประมาณดำเนินการซ่อมแซมทั้งสิ้น 7 ล้านบาทเศษนั้น ก็ได้กำชับกรมชลประทานได้การเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนฤดูฝนที่จะมาถึง รวมถึงเน้นย้ำหน่วยงานราชการในพื้นที่เร่งจัดทำแผนโครงการฟื้นฟูสิ่งก่อสร้างที่เสียหายให้เสร็จทันฤดูฝนที่จะมาถึงให้ชัดเจนทั้งระยะเริ่มต้นและสิ้นสุดโครงการด้วย