นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุภัยพิบัติน้ำท่วมประมาณ 100 คน ได้ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม 11 หน่วยงานเป็นรอบที่ 2 ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้ศาลฯมีคำสั่งให้นายกและพวก ร่วมกันรับผิดชอบต่อความเดือดร้อนเสียหายอันเนื่องมาจากความผิดพลาด ล้มเหลว ละเลย ละเมิดหรือการประมาทเลินเล่อจากการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาอุทกภัย โดยจ่ายเงินค่าชดเชยค่าเสียหายชาวบ้านที่ฟ้องคดีตามความเป็นจริงทุกคน รวมทั้งมีคำขอเพิ่มเติมให้ศาลสั่งให้นายกฯแล พวกชดเชยค่าเสียหายให้กับผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยรายละ 7.75ล้านบาท เท่ากับผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ทางการเมืองด้วย
การฟ้องครั้งนี้ทางสมาคมฯได้รับมอบอำนาจจากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนให้ฟ้องคดีแทนจำนวน 695 ราย เป็นค่าเสียหายราว 2,500 ล้านบาท และเมื่อรวมกับการฟ้องครั้งแรกที่มีผู้ฟ้องคดี 352 ราย ค่าเสียหายราว 740 ล้าน ทำให้ขณะนี้มีผู้เดือดร้อนจากเหตุน้ำท่วมที่มอบหมายให้สมาคมเป็นตัวแทนฟ้องคดีต่อศาลปกครองแล้ว 1,047 ราย รวมค่าเสียหายประมาณ 3,000 กว่าล้านบาท ซึ่งทั้งหมดยื่นฟ้องขอให้นายกฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชดใช้ค่าเสียหายตามความเป็นที่มีตั้งแต่เสียหายหลักแสนบาท และสูงสุดคือ 350 ล้านบาท ที่เป็นการฟ้องในนามบริษัทซึ่งโรงงานในจ.อุยธยาได้รับความเสียหาย
อย่างไรก็ตาม ในการฟ้องครั้งนี้ทางสมาคมได้มีคำขอเพิ่มเติมต่อศาลขอให้ศาลฯสั่งให้นายกฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ที่เสียชีวิตในเหตุอุทกภัยครั้งนี้ที่มีประมาณ 816 ศพ ๆ ละ 7.75 ล้าน เท่ากับผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ทางการเมืองตามมติครม.เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา
"เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมก็เกิดจากความผิดพลาดในการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลและหน่วยงานรัฐ เช่นเดียวกับผู้ที่เสียชีวิตจากการชุมนุมทางการเมือง ดังนั้น ก็ควรได้รับค่าชดเชยเยียวยาเท่าเทียมกัน ซึ่งถ้ารัฐบาลจริงใจและยินดีจ่ายค่าชดเชยในอัตรานี้ให้กับผู้เสียชีวิตในเหตุน้ำท่วมก็เชื่อว่ารัฐบาลจะเป็นที่รักใคร่ของประชาชนอีกเยอะ" นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางสมาคมฯยังคงได้รับการร้องเรียนจากผู้ประสบเหตุน้ำท่วมขอให้ช่วยฟ้องคดีรอบ 3 ในปลายเดือนก.พ. ในกรณีที่ส่งเสริมให้ 7 นิคมอุตสาหกรรมทำกำแพงสูงเพื่อกั้นน้ำ ซึ่งจะทำให้น้ำเข้าท่วมชุมนุมแทนที่จะท่วมนิคมฯ โดยทางสมาคมฯได้มีหนังสือคัดค้านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว หากยังเดินหน้าก็จะฟ้องเป็นคดีต่อไป