นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึงกรณีที่มีการพยากรณ์ว่าปีนี้จะมีไต้ฝุ่น 27 ลูก และพายุโซนร้อนอีก 3-4 ลูกว่า ข้อมูลที่นำเสนอเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ไม่ได้คิดเอง แต่อ้างอิงจากหลายแหล่งวิชาการทั้งจากสถาบันสมุทรศาสตร์ของสหรัฐ ซึ่งดูแลมหาสมุทรแปซิฟิก ข้อมูลจากการใช้โมเดล ข้อมูลประวัติย้อนหลังของพายุ 100 ปี และข้อมูลจากอุณหภูมิน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิก และข้อมูลจากความสูงของคลื่นในมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนตอนใต้ ซึ่งพบว่าจะมีไต้ฝุ่นในมหาสมุทรแปซิฟิกประมาณ 27 ลูก แต่เมื่อมาถึงประเทศไทยจะกลายเป็นพายุโซนร้อนประมาณ 3-4 ลูก ในจำนวนนี้จะเข้าผ่ากลางและประชิดประเทศไทยแบบเต็มๆ ประมาณลูกเดียว ส่วนอีก 2-3 ลูกจะเฉียดข้างๆ แต่ก็ยังมีอิทธิพลต่อดินฟ้าอากาศในประเทศไทย ทำให้เกิดฝนและพายุ นอกจากนี้ ก็จะมีร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านด้วย
สำหรับพายุจะทยอยมาประมาณเดือน พ.ค. และหนักสุดก็เดือน ก.ค.-ส.ค. ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติ โดยสรุปจะมีฝน 1,700 มิลลิเมตร ซึ่งถ้าคิดเป็นน้ำจะประมาณ 5-6 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร แต่ป่าจะดูดซับเอาไว้ 50% ก็จะเหลือ 2 หมื่นล้าน ลบ.ม.ซึ่งตามแผนของเราคือให้เขื่อนเก็บไว้ 5 พันล้าน ลบ.ม.ก็จะเหลืออีก 1.5 หมื่นล้าน ลบ.ม.ซึ่งน้ำก้อนนี้พอไหลผ่าน จ.พิจิตร นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา แก้มลิงก็จะทำงาน เก็บน้ำไว้อีก 5 พันล้าน ลบ.ม. เมื่อพ้นอยุธยามาก็จะเหลือน้ำอีก 1 หมื่นล้าน ลบ.ม. ซึ่งส่วนหนึ่งก็จะผ่ากลางกทม.ด้วยแม่น้ำเจ้าพระยา อีก 2 ส่วนจะไปออกทางแม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำบางปะกง โดยจะระบายผ่านกทม.วันละประมาณ 300-400 ลบ.ม./วินาที ใช้เวลาเดือนครึ่ง หรือประมาณเดือน พ.ย.น้ำถึงจะหมดไป ประชาชนก็ไม่เดือดร้อน
นายปลอดประสพ กล่าวว่า เราสมมติฐานไว้ว่าปริมาณน้ำจะเท่ากับปีที่แล้ว แต่การบริหารจัดการดีกว่าเดิม โดยควบคุมการระบายน้ำให้เข้า-ออกผ่านทางแก้มลิง จะไม่มีการกั้นน้ำหรือทำบิ๊กแบ๊กอีก ต้องให้น้ำมาและไปโดยเร็วที่สุด และปีนี้จะมีการกำหนดขั้นตอนการเตือนภัยโดยละเอียด 20 ข้อ ตั้งแต่พายุมา น้ำฝนไหลหลาก น้ำท่วมมาถึงภาคกลาง และการระบายน้ำพ้น กทม. เป็นต้น
"ยืนยันว่า กทม.ไม่ท่วมแน่นอน หัวเด็ดตีนขาด ถ้าท่วมก็จะท่วมน้อยมาก สั้นมาก ตื้นมาก เอาคอเป็นประกันได้" นายปลอดประสพกล่าว
อย่างไรก็ตาม แนวทางที่ดีที่สุดคือ ขณะนี้ กทม.ต้องไปขุดลอกคูคลองให้ดี และขอให้ผู้ว่าฯกทม.มาพูดคุยและร่วมประชุมกับพวกเราที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ตามคำเชิญด้วย