ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันด้านความมั่นคงปลอดภัยในพื้นที่ จากกรณีเกิดเหตุการณ์ระเบิด 3 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวานนี้ ว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกรุงเทพมหานคร ดำเนินการดูแลป้องกัน รักษาความปลอดภัย ความสงบของบ้านเมือง และบรรเทาภัยต่างๆ กรณีมีสถานการณ์ใดเกิดขึ้น เพื่อให้ประชาชนชาวกรุงเทพมหานครเกิดความมั่นใจในศักยภาพและความพร้อมของหน่วยงานด้านความมั่นคง และการสนับสนุนของกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ได้รับการฝึกฝน อบรมเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนหน่วยงานด้านความมั่งคงและด้านการรักษาความสงบมาอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ และยานพาหนะต่างๆ ที่พร้อมจะดูแล ป้องกัน บรรเทาภัย และให้ความช่วยเหลือ โดยสำนักเทศกิจ และเจ้าหน้าที่เทศกิจ 50 เขต ได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ จำนวน 3,500 นาย คอยดูแลอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับประชานในย่านชุมนุมชนต่างๆ เช่น สถานีขนส่งทั้งทางบกและทางน้ำ ย่านการค้าหรือแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนพื้นที่จุดเสี่ยงภัย สถานที่จัดกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งรักษาความสงบปลอดภัย เจ้าหน้าที่เทศกิจที่ผ่านการอบรมด้านการหาข่าว และความมั่นคงเป็นหน่วยสนับสนุน 300 นาย สามารถช่วยเหลือเจ้าพนักงานฝ่ายตำรวจเมื่อเกิดสถานการณ์ได้
ขณะเดียวกันสำนักงานเขตพื้นที 50 เขต ได้ส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจในการดูแลด้านความมั่นคงปลอดภัย ตรวจตราอาคาร สถานที่ราชการ และสถานที่สำคัญ แหล่งชุมชน แหล่งสาธารณูปโภค ตรวจสอบวัสดุต้องสงสัย โดยอบรมให้เจ้าหน้าที่รักษาความสะอาด และพนักงานเก็บขนมูลฝอย ประมาณ 25,000 คน ที่ทำงานใกล้ชิดพื้นที่คอยเป็นหูเป็นตา และช่วยหาข่าว อีกทั้งประสานงานกับอาสาสมัครร่วมป้องกันภัย อปพร. ตำรวจบ้าน วินจักรยานยนต์รับจ้าง และ สน.พื้นที่ โดยตลอด ส่วนสำนักสิ่งแวดล้อม มีอุปกรณ์ เช่น รถน้ำ รถบรรทุก รถสุขาเคลื่อนที่ ในการให้ความช่วยเหลือ โดยมีพนักงาน กวาดและเก็บขนมูลฝอยประมาณ 3,500 คน ช่วยเป็นหูเป็นตา ส่วนสำนักการโยธา มีความพร้อมเรื่องยานพาหนะ เช่น รถขุด รถตัก รถกระเช้า รถยก รถลากจูง รถบรรทุกเทท้าย ฯลฯ พร้อมทั้งมีหน่วยเคลื่อนที่เร็ว หรือ BEST ที่พร้อมจะเข้าไปซ่อมแซมปรับปรุงพื้นที่ให้อยู่ในสภาพปกติ ตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ยังได้เตรียมความพร้อมของโรงพยาบาลในสังกัดสำนักการแพทย์ กทม. ทั้ง 9 แห่ง พร้อมรองรับผู้ป่วย และประสานกับโรงพยาบาลผ่านเครือข่ายศูนย์เอราวัณ โดยมีทีมหน่วยแพทย์กู้ชีวิตคอยให้ความช่วยเหลือ โดยรับแจ้งรถพยาบาลผ่านสายด่วน 1646 ตลอด 24 ชั่วโมง
ผู้ว่าฯกทม. กล่าวด้วยว่า ได้สั่งการกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดของกรุงเทพมหานคร ปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนการทำงานของฝ่ายรักษาความมั่นคงอย่างเต็มที่ โดยการตรวจตรา ดูแลความปลอดภัยในสถานที่ต่างๆ อย่างเข้มงวด เคร่งครัด โดยเฉพาะย่านชุมชน หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มีชาวต่างชาติอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ย่านเยาวราช เจริญกรุง สุขุมวิท ถนนข้าวสาร เป็นต้น พร้อมทั้งให้สำนักการจราจรและขนส่งคอยตรวจสอบให้กล้อง CCTV ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ พร้อมทั้งติดตั้งกล้องเพิ่มเติมในย่านที่มีชาวต่างชาติจำนวนมาก อาทิ ข้าวสาร อโศก ทองหล่อ อีกด้วย ทั้งนี้ได้ติดตั้งกล้อง CCTV ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ แล้ว จำนวน 12,000 ตัว กำลังเร่งรัดติดตั้งอีก 10,000 ตัว ภายในปี 2555 ให้ครอบคลุมพื้นที่ให้ได้มากที่สุด