น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางนลินี ทวีสิน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางฐิติมา ฉายแสง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 9 รูป และร่วมพิธีบวงสรวงสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เนื่องในงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชประจำปี 2555 ที่ จ.ลพบุรี โดยมีภาคราชการ ภาคเอกชน และประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมงาน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สวมชุดไทยสีฟ้าอ่อน รวมถึงคณะรัฐมนตรีทุกคนด้วย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ตักบาตรอาหารแห้งพระสงฆ์ 9 รูป ประกอบด้วย นม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำผลไม้ ดอกบัว และดอกกุหลาบแดง ก่อนเข้าร่วมพิธีบวงสรวงสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์มหาราช 300 ปี และเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเริ่มงานประจำปีดังกล่าว สำหรับงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-22 กุมภาพันธ์ 2555
จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ศูนย์สร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงาน ตำบลเขาสามยอด อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี โดยกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ทำการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำแห่งนี้
นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จากการที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ จัดหาพื้นที่รับน้ำใน จ.ลพบุรี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำ ได้ดำเนินโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำเขาสามยอดขึ้น เพื่อใช้เป็นพื้นที่รับน้ำแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ซึ่ง จ.ลพบุรี ในพื้นที่ อ.บ้านหมี่ อ.ท่าวุ้ง และ อ.เมือง น้ำจะท่วมทุกปี เพราะเป็นพื้นที่รับน้ำใน จ.ลพบุรี
การแก้ปัญหาน้ำท่วมดังกล่าว พลโทสรศักดิ์ ขาวกระจ่าง ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ศูนย์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทดแทน ได้ยกพื้นที่ในค่ายทหารให้ดำเนินโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำ ภายใต้ชื่อ "โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำเขาสามยอด มีการดำเนินการแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ดังนี้
ช่วงที่ 1 ดำเนินการใกล้แล้วเสร็จ ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยก่อสร้างแหล่งน้ำเพื่อใช้เป็นพื้นที่เก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง โดยให้มีความกว้าง 300 เมตร ความยาว 188 เมตร ความลึก 3.50 เมตร สามารถรองรับน้ำได้ 150,000 ลูกบาศก์เมตร ปรับปรุงคันดิน ก่อสร้างประตูเปิด-ปิดน้ำ แบบมือหมุน จำนวน 2 บาน ก่อสร้างโรงสูบน้ำพร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 20 แรงม้า จำนวน 2 เครื่อง และวางท่อ HDPE ขนาด 225 มิลลิเมตร ระยะทาง 1,535 เมตร เพื่อใช้น้ำไปผลิตน้ำประปา การเกษตร และปรับปรุงภูมิทัศน์รอบโครงการ
สำหรับในช่วงที่ 2 จะมีการขุดลอกขยายแหล่งน้ำเดิมที่มีสภาพตื้นเขิน ใช้เป็นแหล่งเก็บกักน้ำไว้ใช้ฤดูแล้ง โดยให้มีความกว้างท้องคลอง 5-40 เมตร ความยาว 10,740 เมตร ความลึก 3.50 เมตร ศักยภาพการระบายน้ำ 36 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พร้อมปรับปรุงคันดิน และเสริมลูกรังบดอัดแน่น กว้าง 4 เมตร และก่อสร้างบานประตูเพื่อเปิดปิดน้ำ และวางหินเรียงป้องกันการกัดเซาะ จำนวน 2 จุด ซึ่งโครงการดังกล่าวจะใช้เป็นแก้มลิงเพื่อรองรับน้ำบรรเทาปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง อีกทั้งยังมีน้ำเพื่อนำเข้าระบบผลิตประปาเพื่อใช้ในเขตพื้นที่ทหารและพื้นที่ข้างเคียงอีกด้วย โดยคาดว่าการดำเนินการในช่วงที่ 2 นี้จะแล้วเสร็จอีก 3 เดือนทันกับฤดูฝนที่จะมาถึง
ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะ ออกเดินทางจาก จ.ลพบุรี ไปยังศูนย์ศิลปาชีพส่งออกบางไทร อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปแผนงาน/โครงการป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ปลายน้ำ (ตอนบน) และรับฟังผลการประชุมแผนงาน/โครงการป้องกันน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมจากผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัย