นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายพื้นที่เริ่มประสบปัญหาไฟป่าและหมอกควัน โดยเฉพาะภาคเหนือสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันอยู่ในขั้นวิกฤต รวม 9 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง แพร่ ลำพูน เชียงราย พะเยา เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน น่าน และตาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าและหมอกควัน เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ดังนี้ ด้านการเตรียมความพร้อมจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำรวจข้อมูลพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า จัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา พร้อมจัดทำแผนระดมกำลังพลในการดับไฟป่า โดยประสานสนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วและเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ไฟป่าอย่างใกล้ชิด ตลอดจนจัดเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ดับเพลิงให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานทันทีที่เกิดไฟป่า
ด้านมาตรการควบคุม ควบคุมการเผาในพื้นที่เกษตรกรรมและชุมชน โดยจัดระบบการจัดเก็บ คัดแยก และจัดการขยะมูลฝอยอย่างถูกวิธี ควบคุมไม่ให้เผาขยะมูลฝอยและพงหญ้าแห้งในเขตชุมชนและบริเวณริมทาง ส่วนการควบคุมในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ ให้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจตรา ดูแล ป้องกันการบุกรุกทำลายป่าและการควบคุมไฟป่าในพื้นที่อย่างจริงจัง
ด้านการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการประกอบกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดไฟป่า และงดเว้นการจุดไฟใกล้บริเวณแนวป่าอย่างเด็ดขาด ส่วนเกษตรกรให้ใช้วิธีไถกลบวัชพืชแทนการเผา พร้อมจัดทำแนวกันไฟบริเวณชายป่า
ด้านมาตรการบังคับใช้กฎหมาย บังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ทำให้เกิดไฟป่าอย่างเข้มงวด รวมถึงกำชับให้เจ้าหน้าที่กวดขัน ตรวจตรา และลาดตระเวนมิให้มีการบุกรุก แผ้วถาง ทำลายทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
นายวิบูลย์ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ไฟป่าและหมอกควันปกคลุมดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ปิดประตู หน้าต่างให้มิดชิด หลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน หากจำเป็นให้สวมหน้ากากอนามัยและใส่แว่นตา เพื่อลดปริมาณการสูดดมฝุ่นละอองและป้องกันการระคายเคืองตา รวมทั้งดูแลเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจเป็นพิเศษ