นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยเกี่ยวกับการจัดการพื้นที่รองรับน้ำหรือแก้มลิงว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้กำหนดพื้นที่รับน้ำหรือแก้มลิง จำนวนประมาณ 3.3 ล้านไร่ ซึ่งการกำหนดพื้นที่ดังกล่าวเป็นเพียงการศึกษาเบื้องต้นว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่มีศักยภาพและมีความเหมาะสมในการเก็บกักน้ำเท่านั้น ยังไม่ได้หมายความว่าพื้นที่ทั้งหมดจะต้องถูกน้ำท่วมขัง เนื่องจากต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ในการนำมาวางแผนและแนวทางในการกำหนดเส้นทางน้ำ อาทิ ปริมาณน้ำ ทิศทางการผันน้ำจากแหล่งน้ำ ระดับน้ำและระดับพื้นที่ ซึ่งขณะนี้สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) อยู่ระหว่างการเริ่มต้นจัดทำแบบจำลองระบบการผันน้ำและการระบายน้ำ โดยจะนำผลจากการทดลองมาพิจารณาตัดสินใจอย่างรอบคอบในการระบุพื้นที่ให้มีความชัดเจนแล้วจึงประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนขั้นตอนของการกำหนดหลักเกณฑ์และตัวเลขจำนวนเงินการเยียวยาประชาชนที่อาศัยหรือทำกินในพื้นที่ดังกล่าวให้ได้รับการช่วยเหลือในแนวทางที่เหมาะสมนั้น ได้จัดทำรายละเอียดไว้เบื้องต้นแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ โดยกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ดำเนินการ
สำหรับสถานการณ์น้ำใน 2 เขื่อนใหญ่ คือ เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ที่เบื้องต้น วางแผนการจัดการน้ำให้อยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยระดับ 45% ในเดือนพฤษภาคม เป็นเพียงแนวทางเท่านั้น สามารถปรับการทำงานให้มีความยืดหยุ่นเหมาะสมไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างสอดคล้องกับข้อเท็จจริงและมีศักยภาพสูงสุด
รมว.เกษตร กล่าวถึงปัญหาหมอกควันในภาคเหนือว่า ขณะนี้สถานการณ์เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้วเกือบจะทุกพื้นที่ยังคงเหลือเพียง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งได้เร่งรัดให้ปฏิบัติการฝนหลวงหน่วยฯ เชียงใหม่ เพิ่มจำนวนเที่ยวบิน เพื่อเพิ่มโอกาสฝนตกและปริมาณน้ำฝนในการชำระล้างหมอกควันให้มีความเบาบางลง ควบคู่กับการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและพืชเศรษฐกิจที่สำคัญในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน และจังหวัดใกล้เคียงด้วย