นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ในระยะ 1-2 วันนี้ พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก อาจเกิดพายุฤดูร้อน โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป จึงขอเตือนประชาชนดูแลสิ่งปลูกสร้างให้มั่นคง ตัดแต่งกิ่งไม้และโค่นต้นไม้ที่ไม่แข็งแรงทิ้ง จัดเก็บสิ่งของที่ปลิวลมได้ให้มิดชิด ส่วนเกษตรกรให้ทำหลังคาหรือหาวัสดุมาปกคลุมป้องกันพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายจากพายุลมแรง ขณะเกิดพายุฤดูร้อน ให้หลบในอาคารที่มั่นคงแข็งแรง อยู่ให้ห่างจากป้ายโฆษณา ต้นไม้ใหญ่ เพื่อป้องกันการถูกล้มทับ และลดความเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่า
นายวิบูลย์ กล่าวต่อไปว่า ระยะนี้สถานการณ์ภัยแล้งเริ่มขยายวงกว้าง โดยมีจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) รวม 30 จังหวัด จึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัด วางแผนกิจกรรมการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับปริมาณน้ำต้นทุน และแผนการบริหารจัดการน้ำของรัฐ เพื่อควบคุมมิให้สถานการณ์ภัยแล้งลุกลาม
ในขณะเดียวกัน พื้นที่ 7 จังหวัดภาคเหนือ ยังคงได้รับผลกระทบจากวิกฤตหมอกควัน โดยมีปริมาณฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน จึงขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเผาขยะในพื้นที่ชุมชนและเผาพื้นที่การเกษตร ไม่ประกอบกิจกรรมที่ทำให้เกิดควันและเพิ่มปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน ภัยแล้ง และหมอกควัน